TRM Labs ชี้ปี 2024 อาชญากรรมในโลกคริปโตลดลง 51% แม้ปริมาณธุรกรรมพุ่งแตะ 10.6 ล้านล้านดอลลาร์

รายงานฉบับใหม่ชี้ให้เห็นว่า ‘สกุลเงินดิจิทัลและอาชญากรรม’ ไม่ได้เชื่อมโยงกันอย่างที่บางคนเข้าใจผิด โดยข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน TRM Labs ระบุว่า ในปี 2024 มีเพียง *0.4%* ของมูลค่าการทำธุรกรรมทั้งหมดในโลกของ *สกุลเงินดิจิทัล* เท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการลดลง *51%* จากปีก่อน แสดงให้เห็นถึงการลดลงที่ชัดเจนของอาชญากรรมในวงการแม้ว่าปริมาณธุรกรรมจะเพิ่มขึ้น

ตลอดปีนี้ ปริมาณการซื้อขายคริปโตทั่วโลกพุ่งขึ้นถึง *10.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ *1.47 ล้านล้านบาท*) เพิ่มขึ้นถึง *56%* จากปีก่อน แต่ในจำนวนนี้มีเพียง *4.5 หมื่นล้านดอลลาร์* (ราว *6.25 แสนล้านบาท*) เท่านั้นที่ถูกประเมินว่าเกี่ยวกับกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยกว่า *85%* ของจำนวนนี้มาจากบุคคลหรือกระเป๋าที่อยู่ในบัญชีดำ รวมถึงผู้หลบเลี่ยงการคว่ำบาตรและกลุ่มมิจฉาชีพ

แม้ว่าเครือข่าย *บิตคอยน์(BTC)*, *อีเธอเรียม(ETH)* และ *ทรอน(Tron)* จะยังคงเป็นเส้นทางหลักของการทำธุรกรรมทางอาญา แต่ปีนี้พบว่า *ทรอน* มีปริมาณการใช้ในกิจกรรมเหล่านี้ลดลงถึงครึ่งหนึ่ง *ความคิดเห็น*: สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ามาตรการที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงในโครงข่ายบล็อกเชนได้ โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน T3 FCU ซึ่งร่วมมือกันในภาครัฐและเอกชน โดยสามารถอายัดเงินกว่า *130 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ *1.8 พันล้านบาท*) และยังสามารถคืนเงิน *USDT* ที่อยู่ในบัญชีดำประมาณ *20%* กลับสู่เหยื่อหรือเจ้าหน้าที่รัฐ

ผลของการคว่ำบาตรยังปรากฏชัดในตลาดคริปโตของประเทศที่ถูกควบคุม เช่น รัสเซียและอิหร่าน โดย *Garantex* และ *Nobitex* สองกระดานแลกเปลี่ยนชื่อดังของทั้งสองประเทศถูกโจมตีและสูญเสียเงินไปรวม *49 ล้านดอลลาร์* (ราว *6.8 พันล้านบาท*) ส่งผลให้ยอดเงินไหลเข้าจากเขตอำนาจศาลที่ถูกคว่ำบาตรลดลง *33%*

อย่างไรก็ตาม TRM Labs ยังเตือนถึงภัยคุกคามรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะการระดมทุนของกลุ่มก่อการร้ายผ่าน *สเตเบิลคอยน์* เช่น *USDT* ซึ่งถูกใช้โดยกลุ่ม ISKP (รัฐอิสลามแห่งโคราซาน) มากขึ้น รวมถึงการเติบโตของ *เหรียญเน้นความเป็นส่วนตัว* อย่าง *โมเนโร(XMR)*

ในปี 2024 การแฮกในวงการคริปโตเพิ่มขึ้น *17%* เป็นมูลค่ากว่า *2.2 พันล้านดอลลาร์* (ประมาณ *3 หมื่นล้านบาท*) โดย *8 ร้อยล้านดอลลาร์* ในจำนวนนั้นถูกขโมยโดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ ซึ่งมักใช้เทคนิคซับซ้อนเช่นการล้างเงินผ่านบริดจ์แบบไร้ศูนย์กลางและข้ามเชนเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงคือการใช้ *ปัญญาประดิษฐ์* หรือ *AI* ในการก่ออาชญากรรมคริปโตในปี 2025 ที่กำลังจะมาถึง โดยรายงานระบุว่าองค์กรอาชญากรรมเริ่มนำ *โมเดลภาษาขนาดใหญ่(LLM)* มาใช้ในการสร้างแผนหลอกลวงเฉพาะกลุ่ม สร้างวิดีโอปลอมเพื่อข่มขู่ผู้คน ทำแคมเปญฟิชชิ่งที่ซับซ้อนขึ้น รวมถึงสามารถผลิตเอกสารปลอมและรหัสยืนยันตัวตนเพื่อใช้ในกระบวนการหลอกลวงที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ *ความคิดเห็น*: AI กำลังกลายเป็นอาวุธใหม่ในมือของอาชญากรคริปโต

โดยรวมแล้ว รายงานของ TRM Labs แสดงให้เห็นแนวโน้มเชิงบวกว่า *คริปโต* กำลังหลุดพ้นจากภาพจำเดิมเรื่องการเป็นแหล่งฟอกเงินและอาชญากรรม และสะท้อนว่าอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถพัฒนาแนวทางตอบโต้ภัยคุกคามได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน