บิตคอยน์(BTC) ร่วงหนักใกล้หลุด 100,000 ดอลลาร์ หลังล้างพอร์ตนักลงทุนกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับวิกฤตราคารุนแรง หลังจากตลาดคริปโตมีการ ‘ชอร์ต’ หรือปิดสถานะซื้อหลายตำแหน่งอย่างกะทันหันในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลงจนเกือบหลุดแนวรับหลักที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเกิดความตื่นตระหนก และตลาดคริปโตโดยรวมเข้าสู่ภาวะปั่นป่วนหนัก

ตามข้อมูลจาก CoinGlass เมื่อวันที่ 24 ราคาตกฮวบครั้งนี้ได้กระตุ้นให้เกิดการ ‘ล้างพอร์ต’ ขนาดใหญ่ โดยมีการปิดโพซิชันรวมเกือบ 878 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.22 หมื่นล้านบาท ซึ่งโพซิชันที่ถูกปิดกว่า 90% เป็นฝั่ง ‘ลอง’ หรือผู้เล่นที่เดิมพันว่าเหรียญจะขึ้นราคาต่อ จำนวนผู้ลงทุนที่ต้องสูญเสียโพซิชันมีมากถึง 227,000 ราย โดยการร่วงแรงเกิดขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ทำให้ราคาบิตคอยน์ลดลงจาก 102,800 ดอลลาร์ เหลือใกล้ระดับ 100,000 ดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่นาที

การร่วงของราคาครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการ ‘ปรับฐาน’ แต่ยังถือว่าเป็นแรงกระทบทางจิตวิทยาที่รุนแรง เนื่องจากระดับ 100,000 ดอลลาร์ถือเป็นแนวรับสำคัญทั้งในเชิงเทคนิคและอารมณ์ของนักลงทุน หากราคาหลุดระดับนี้ได้ อาจนำไปสู่ภาวะขยาดซื้อและแรงขายถาโถม นอกจากนี้ หากประจวบกับช่วงที่ตลาดหุ้นกลับมาเปิดและสภาพคล่องหดตัว ความผันผวนของคริปโตมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกมาก

ทั้งนี้ ในแง่ของขนาดการล้างพอร์ต อันดับหนึ่งคืออีเธอเรียม(ETH) ที่มีโพซิชันถูกปิดถึง 356.54 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยบิตคอยน์ที่ 192.89 ล้านดอลลาร์ ด้านโซลานา(SOL) และริปเปิล(XRP) ก็ได้รับผลกระทบด้วย โดยมีมูลค่าการล้างพอร์ต 45.47 ล้านดอลลาร์ และ 32.91 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ เมื่อรวมอัลต์คอยน์ทั้งหมด ตลาดคริปโตมีการล้างพอร์ตกว่า 93 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตอกย้ำเทรนด์ขาลงในวงกว้าง

ในกรณีที่ใหญ่ที่สุด มีการล้างโพซิชัน ETH-USDT มูลค่า 9.15 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 1,273 ล้านบาท บนแพลตฟอร์ม HTX นักวิเคราะห์บางรายให้ "ความคิดเห็น" ว่าการร่วงหนักสะท้อนการคาดหวังที่มากเกินไปต่อแนวโน้มขาขึ้นจากนักลงทุน และเมื่อราคาย่อลงเล็กน้อยก็เกิดปฏิกิริยาแบบลูกโซ่ กลายเป็น ‘คลื่นย่อยล้างพอร์ต’ ตามมา

เหตุการณ์นี้เน้นย้ำอีกครั้งถึง ‘ความผันผวน’ และ ‘ความเปราะบาง’ ของตลาดคริปโต นักลงทุนควรตระหนักถึง ‘ความเสี่ยงจากเลเวอเรจสูง’ และภาวะตลาดร้อนแรงที่อาจกลับตัวอย่างไม่ทันตั้งตัว การจัดการความเสี่ยงและวินัยในการลงทุนจึงยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล