แจ็คเอ็กซ์บีที(ZachXBT) นักวิเคราะห์อาชญากรรมด้านบล็อกเชน เตือนว่าขณะนี้อุตสาหกรรมคริปโตอาจกำลังก้าวเข้าสู่ ‘ซูเปอร์ไซเคิลของอาชญากรรม’ ครั้งใหม่ จากการที่การเมืองในสหรัฐฯ เข้ามาเกี่ยวข้องกับเหรียญมีม การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เคร่งครัด และการที่เจ้าหน้าที่กำกับดูแลถอนตัวจากข้อพิพาททางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ส่งผลให้ช่องว่างสำหรับการฉ้อโกงขยายตัวอย่างชัดเจน
เมื่อวันที่ 4 แจ็คเอ็กซ์บีที เผยแพร่โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X (อดีตคือทวิตเตอร์) ระบุว่า “แม้แต่เดิมคริปโตก็มีความเสี่ยงด้านการฉ้อโกงและการนำไปใช้ในทางที่ผิดอยู่แล้ว แต่ปรากฏการณ์ล่าสุดที่นักการเมืองเข้าร่วมสร้างเหรียญมีม และคดีความหลายกรณีถูกยกเลิก กลับยิ่งทำให้ปัญหาเหล่านี้รุนแรงขึ้น” เขาได้ยกตัวอย่าง *ประธานาธิบดีทรัมป์* ซึ่งถูกนำไปใช้เป็นหน้าตาให้กับเหรียญมีม โดยชี้ว่าสิ่งนี้ทำให้พฤติกรรมชักจูงนักลงทุนดูเหมือนจะได้รับการยอมรับมากขึ้น
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า บรรดาอินฟลูเอนเซอร์คริปโตที่มีชื่อเสียง รวมถึงบุคคลสำคัญในวงการหลายราย กำลังใช้ความไว้วางใจของผู้ติดตามเพื่อหลอกลวง โดยไม่มีผลกระทบตามมาทางกฎหมาย *ความคิดเห็น* ของเขาชี้ว่าการไม่ถูกลงโทษเหล่านี้ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมแห่งความไร้ความรับผิดชอบ และทำลายความเชื่อมั่นของตลาด
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มองสถานการณ์ในแง่ร้ายทั้งหมด โดยระบุว่า “ถ้ามองในมุมของการแฮ็กแบบแบล็กแฮต การฟิชชิ่ง หรือการปล้นทรัพย์ทางดิจิทัล นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด” หมายความว่าอาชญากรรมชัดเจนยังคงเผชิญกับการปราบปรามอย่างจริงจัง แต่กิจกรรมที่อยู่ในเขตเทา ๆ ทางเทคโนโลยีกลับได้รับความผ่อนปรนมากกว่า
ในช่วงที่สหรัฐฯ ยังมีช่องว่างด้านนโยบาย และนักการเมืองเริ่มเข้ามามีบทบาทตรงในตลาดคริปโต เส้นแบ่งระหว่างสิ่งที่ “ยอมรับได้” และ “หลอกลวง” ก็เริ่มพร่าเลือน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สภาพแวดล้อมเช่นนี้จะทำให้ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อได้ง่ายมากขึ้น และหน่วยงานกำกับดูแลจะต้องดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟู *ความเชื่อมั่นในระบบนิเวศคริปโต* อย่างเร่งด่วน
ความคิดเห็น 0