ในตลาดบิตคอยน์(BTC) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความผันผวน นักเทรดรายหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่า ‘AguilaTrades’ บนโซเชียลมีเดีย กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง หลังจากสูญเสียเงินไปกว่า *487* ล้านบาทภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เนื่องจากใช้กลยุทธ์การเทรดที่เสี่ยงสูงและพลาดโอกาสทำกำไรหลายครั้ง
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน Aguila ได้โอนเหรียญ USDคอยน์ มูลค่ากว่า *3,918 ล้านดอลลาร์* (ราว *544* ล้านบาท) จากแพลตฟอร์มไบบิต(Bybit) ไปยังแพลตฟอร์มอนุพันธ์ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) และเปิดสถานะ ‘ลอง’ ในตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์ ราคาบิตคอยน์ในช่วงเวลานั้นปรับตัวขึ้น ส่งผลให้เขามีกำไรที่ยังไม่รับรู้สูงถึง *576 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ *80* ล้านบาท ทว่า Aguila เลือกที่จะไม่ปิดสถานะแม้จะมีกำไรสะสมแล้ว ก่อนที่ราคาจะผันผวนลงอีกครั้ง กลับทำให้เขาต้องยอมขาดทุนกว่า *1,247 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *173* ล้านบาท
ความผิดพลาดไม่ได้จบเพียงเท่านั้น โดยวันที่ 15 มิถุนายน Aguila เข้าสถานะลองอีกครั้ง และเคยมีผลกำไรสูงสุดอยู่ที่ *1,000 ล้านดอลลาร์* หรือ *139* ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ขาดทุนไปกว่า *295* ล้านบาท นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน เขายังเทรดลองอีกรอบ ซึ่งควรจะทำกำไรได้กว่า *45* ล้านบาท แต่ได้กลายเป็นการขาดทุนที่สูงถึง *236* ล้านบาทแทน
ในความพยายามสุดท้าย Aguila เปลี่ยนกลยุทธ์ไปเปิดสถานะ ‘ชอร์ต’ โดยคาดหวังว่าราคาบิตคอยน์จะลดลง แต่ราคากลับดีดตัว ทำให้เขาขาดทุนเพิ่มอีก *233* ล้านบาท ส่งผลให้ในที่สุด ทุนเริ่มต้นจาก *3,900* ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง *400* ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ *56* ล้านบาทเท่านั้น
*ความคิดเห็น* กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของความโลภและการขาดวินัยในการบริหารพอร์ต แม้ทิศทางของราคาจะคาดการณ์ได้ถูกต้องก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเทรดในตลาดคริปโตที่ผันผวนสูงเช่นนี้ต้องมีหลักเกณฑ์ชัดเจน ทั้งในแง่ของการตัดขาดทุน (‘cut loss’) และการทำกำไร (‘take profit’) เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียระดับมหาศาลจากความลังเลหรือความโลภ
ตลาดคริปโตยังคงเป็นพื้นที่ที่ *โอกาสและความเสี่ยงมีอยู่พร้อมกัน* การตั้งกลยุทธ์เทรดที่สมดุลจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนอยู่รอดได้ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0