กองทุนเฮดจ์ฟันด์สายคริปโตรายใหญ่ กำลังเดินหน้าลงทุนในโทเคนบีเอ็นบี(BNB) ของไบแนนซ์เป็นวงเงินมหาศาล โดยมูลค่าการลงทุนครั้งนี้สูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,900 ล้านบาท) ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าแนวทางนี้คล้ายคลึงกับยุทธศาสตร์ของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) จากไมโครสเตรทจี ที่สะสมบิตคอยน์(BTC) อย่างต่อเนื่องในฐานะกลยุทธ์ทางการเงินระยะยาว
แผนการนี้นำโดยอดีตผู้บริหารสามรายจากโครัล แคปิตอล โฮลดิงส์ คือ แพตทริก ฮอสแมน, โจชัว ครูเกอร์ และโจนาธาน พาร์ช บริษัทโครัล แคปิตอลถูกซื้อกิจการไปโดยบริษัทดีเอ็นเอ ฟันด์ (DNA Fund) เมื่อปี 2024
Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 24 ว่าทั้งสามคนวางแผนระดมทุนให้เสร็จภายในเดือนนี้ และจะเริ่มทยอยเข้าซื้อบีเอ็นบีผ่านบริษัทใหม่ชื่อ ‘บิลด์ แอนด์ บิลด์ คอร์เปอเรชัน(Build & Build Corporation)’ โดยมีเป้าหมายในอนาคตคือการนำบริษัทขึ้นจดทะเบียนในตลาดแนสแด็ก ซึ่งสะท้อนทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่ต้องการเชื่อมโยงกับตลาดทุนแบบดั้งเดิม
บีเอ็นบีเป็นโทเคนหลักของไบแนนซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยโทเคนนี้ทำหน้าที่เป็น ‘โทเคนยูทิลิตี้’ ที่มอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในระบบนิเวศของไบแนนซ์ เช่น ค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง
ความพยายามในการซื้อบีเอ็นบีอย่างเป็นระบบนี้ จึงถูกวิเคราะห์ว่าเป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นต่ออนาคตของระบบนิเวศไบแนนซ์ในระยะยาว นอกจากนี้ในขณะที่ *ทรัมป์* กำลังมีบทบาทอย่างชัดเจนในการสนับสนุนคริปโต ความคาดหวังว่าอุตสาหกรรมคริปโตจะเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักในสหรัฐฯ ก็ยิ่งสูงขึ้น จึงมีความเห็นว่า การซื้อบีเอ็นบีครั้งใหญ่นี้ อาจสะท้อนความพยายามของสถาบันในการฟื้นความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ดิจิทัลอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0