หากบิตคอยน์(BTC)ยังคงแกว่งตัวลงในช่วงฤดูร้อนนี้ ขาขายที่ลากยาวอาจทำให้คริปโตเบอร์หนึ่งของโลกบันทึกสถิติขาดทุนในฤดูร้อนติดต่อกันถึง 4 ปีภายในปี 2025 ขณะที่ดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นตัวแทนตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจทำสถิติพุ่งขึ้นในฤดูร้อนเป็นปีที่ 3 หากยังคงแข็งแกร่งต่อไป
ระหว่างปี 2020 ถึง 2024 ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นถึง 8 ครั้งในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ขณะที่บิตคอยน์ทำได้เพียง 6 ครั้ง เมื่อดูจากภาพรวมแล้ว ผลตอบแทนในฤดูร้อนของทั้งสองสินทรัพย์อาจไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่หากพิจารณา *ผลตอบแทนเฉพาะเดือนมิถุนายน* จะเห็นความแตกต่างที่เด่นชัด — บิตคอยน์สามารถบวกได้เพียงครั้งเดียวตั้งแต่ปี 2020 ในขณะที่ S&P 500 บวกในทุกปี ยกเว้นสองปีเท่านั้น
ความอ่อนแรงของบิตคอยน์ในฤดูร้อนไม่ได้สะท้อนแค่ *รูปแบบตามฤดูกาล* เท่านั้น แต่เกิดจากทั้งปัจจัยเฉพาะในวงการคริปโตและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม โดยมีสาเหตุที่น่าจับตา เช่น มาตรการแบนเหมืองคริปโตของจีน วัฏจักรของการ *ลดรางวัลบล็อก (halving)* รวมถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นหลังจากวิกฤตโควิด-19
ข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีชี้ว่า *ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาปรับฐานอย่างต่อเนื่องในตลาดคริปโต* ซึ่งได้รับผลกระทบจากตัวแปรเศรษฐกิจใหม่ๆ ในแต่ละปี มองไปที่ฤดูร้อนปี 2025 ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มนี้เช่นกัน โดยปัจจัยชี้ขาดในอนาคตอาจรวมถึง *นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)* การเปลี่ยนแปลงท่าทีของสถาบันการเงินรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในตลาด รวมถึง *นโยบายที่แตกต่างกันของทรัมป์และรัฐบาลไบเดน* ซึ่งกลายเป็นจุดโฟกัสสำคัญของนักลงทุนทั่วโลก
**ความคิดเห็น:** ปรากฏการณ์ตามฤดูกาลดูเหมือนจะไม่ใช่คำอธิบายทั้งหมดของพฤติกรรมตลาดคริปโต โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยโครงสร้างที่ลึกซึ้งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเปราะบางต่อข่าวสารเชิงลบในช่วงฤดูร้อนก็สะท้อนถึงธรรมชาติ *ความผันผวนสูง* ซึ่งยังคงเป็นเอกลักษณ์ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบัน
ความคิดเห็น 0