Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญเตือนบิตคอยน์(BTC) อาจเกิดภาวะช็อกจากอุปทาน พร้อมคาดราคาพุ่งแรงไม่จำกัด

ตลาดคริปโตกำลังได้รับการเตือนว่า *บิตคอยน์(BTC) อาจเผชิญภาวะช็อกจากฝั่งอุปทาน* ในอีกไม่นานนี้ แมกซ์ ไคเซอร์(Max Keiser) นักลงทุนสายคริปโตชื่อดังและที่ปรึกษาประธานาธิบดีนาอิบ บูเคเล(Nayib Bukele) แห่งเอลซัลวาดอร์ ได้ออกมากล่าวผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า ราคาอาจพุ่งขึ้นแบบรุนแรงจากอุปทานที่หดตัวอย่างรวดเร็ว

ไคเซอร์เน้นว่า “การคำนวณทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว และการช็อกจากฝั่งอุปทานเป็นเพียงเรื่องของเวลา” โดยอ้างอิงจากโครงสร้างของบิตคอยน์ซึ่งจะมีการ *ลดรางวัลจากการขุดลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี* หรือที่เรียกว่า ‘การฮาล์ฟวิ่ง’ ซึ่งการฮาล์ฟวิ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2024 โดยรางวัลต่อบล็อกถูกลดเหลือ 3.125 BTC และจะลดลงอีกครั้งในปี 2028

ยิ่งไปกว่านั้น บิตคอยน์ยังมีโครงสร้างที่ *จำกัดจำนวนเหรียญไว้สูงสุดเพียง 21 ล้านเหรียญ* ซึ่งในปัจจุบันมีเหรียญที่ถูกขุดไปแล้วราว 20 ล้านเหรียญ หากความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โอกาสที่อุปทานจะขาดแคลนก็ยิ่งใกล้เข้ามา

ในฝั่งความต้องการ บรรดาผู้เชี่ยวชาญก็เห็นตรงกันว่า แรงซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แซมสัน โมว(Samson Mow) ซีอีโอของ JAN3 และสายแม็กซิมอลลิสต์ของบิตคอยน์ ระบุว่า “ทั้งฝั่งอุปทานและความต้องการต่างกำลังนำไปสู่การระเบิดของราคา โดยอาจไม่มีขีดจำกัดราคาอีกต่อไป” เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้รับการอนุมัติสปอต ETF นักลงทุนสถาบันเริ่มเข้าซื้อหนัก ขณะที่นักลงทุนรายย่อยกลับ *ชะลอการขาย*

ท่ามกลางแนวโน้มนี้ นักลงทุนสถาบันได้เข้าซื้อบิตคอยน์อย่างจริงจัง ตัวอย่างเช่น บริษัท มายโครสแตรทิจี(MSTR) ที่นำโดย ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ได้ออกพันธบัตรแปลงสภาพเพื่อระดมทุนสำหรับซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม จนปัจจุบันถือครองอยู่รวม 592,345 BTC ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว ​5,360 억원 ซึ่งเป็นอันดับสองรองจากแบล็คร็อก($BLK) เท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทยักษ์จากญี่ปุ่นอย่าง เมตาแพลนเน็ต และ ProCap BTC ของ แอนโทนี พอมพลิอาโน(Anthony Pompliano) ก็ร่วมกระแสเข้าซื้อเช่นเดียวกัน

ด้าน อดัม ลิฟวิงสตัน(Adam Livingston) หนึ่งในผู้สนับสนุนบิตคอยน์แสดงความเห็นว่า “ETF และสถาบันต่างดูดซับบิตคอยน์จากตลาดไปเป็นจำนวนมาก ขณะที่นักลงทุนทั่วไปยังคงเทขายอยู่ อาจเป็นชนวนสำคัญที่เร่งภาวะช็อกจากอุปทานให้เร็วขึ้น” เขายังระบุว่า ในบางช่วงเวลาปริมาณที่ขุดได้ใหม่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการอีกต่อไป

ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่านี่ไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ราคาพุ่งชั่วคราว แต่เป็น *การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาด* ไคเซอร์และโมวเห็นว่า บิตคอยน์กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แค่เพราะราคาที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นเพราะโมเมนตัมจาก *ราคา ความต้องการ และอุปทาน* ต่างหนุนกันอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะเมื่อมีหลายประเทศ เช่น เอลซัลวาดอร์ ที่เริ่มนำบิตคอยน์มาใช้ในระดับชาติ

แม้ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอน แต่ภาพรวมในตอนนี้สะท้อนว่ากำลังเป็น *ช่วงเวลาแห่งโอกาสสำหรับนักลงทุน* ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นพ้องว่า “นี่คือช่วง ‘พายุเงียบ’ ก่อนที่การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของตลาดจะเริ่มต้นขึ้น”

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1