เครดิตส่วนตัวนำตลาด RWA โตพุ่ง 380% แตะ 24,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025

สินทรัพย์จริงที่ถูกโทเคนไรซ์(RWA) กำลังกลายเป็นสินทรัพย์กระแสหลักในตลาดการเงินอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ ‘เครดิตส่วนตัว(Private Credit)’ ที่สามารถโปรแกรมผลตอบแทนได้ กำลังก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของความเคลื่อนไหวนี้ รายงาน “สถานะสินทรัพย์จริงช่วงครึ่งปีแรก 2025” ที่จัดทำร่วมกันโดยโปรโตคอลดีไฟ(Gauntlet) และแพลตฟอร์มข้อมูล RWA.xyz เปิดเผยว่า ‘เครดิตส่วนตัว’ มีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตลาด RWA ทั่วโลก

ขนาดตลาด RWA (ไม่รวมสเตเบิลคอยน์) เติบโตขึ้นเกือบ 380% นับตั้งแต่ปี 2022 โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 933,600 ล้านบาท) ในจำนวนนี้ ‘เครดิตส่วนตัว’ ครองสัดส่วนมากกว่าครึ่ง ด้วยมูลค่าตลาดประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 546,000 ล้านบาท) จากเดิมที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แบบโทเคนไรซ์เคยเป็นจุดสนใจหลัก เช่น โครงการจากแบล็คร็อก($BLK) และแฟรงคลิน เทมเปิลตัน แต่ปัจจุบัน ‘เครดิตส่วนตัว’ ที่เป็นการให้กู้โดยตรงได้กลายเป็นแกนกลางของตลาด RWA อย่างแท้จริง

รายงานชี้ว่า ‘เครดิตส่วนตัว’ มีจุดเด่นด้านผลตอบแทน ซึ่งอยู่ระหว่าง 8-12% ต่อปี โดยหนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือกองทุนโทเคนของอะพอลโลในชื่อ ACRED จุดเด่นนี้ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหา *พรีเมียมจากความเสี่ยง* ที่สูงกว่าพันธบัตรในตลาดสาธารณะ และจากข้อมูลของ FS Investments บริษัทจัดการสินทรัพย์ทางเลือก ระบุว่า ‘เครดิตส่วนตัว’ ยังได้รับแรงหนุนจากเทคโนโลยีโทเคนไรซ์ที่ช่วยให้การชำระเงินเร็วขึ้น เพิ่มสภาพคล่อง ลดอุปสรรคในการเข้าร่วมลงทุน และรองรับการลงทุนขนาดเล็กได้ดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง

การเติบโตของ RWA ไม่ได้จำกัดแค่การเปลี่ยนรูปสินทรัพย์เป็นดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยง ‘สินทรัพย์การเงินในโลกจริง’ เข้ากับระบบการเงินแบบออนเชน ช่วยเปิดทางให้เทคโนโลยีบล็อกเชนรองรับฟังก์ชันที่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำได้ และเมื่อเทคโนโลยีการโทเคนไรซ์พัฒนาไปมากขึ้น นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า *ระบบนิเวศ RWA* จะขยายจากพันธบัตรและเครดิตส่วนตัว ไปสู่กลุ่มสินทรัพย์อย่างอสังหาริมทรัพย์, งานศิลปะ และตราสารหนี้เชิงพาณิชย์อีกหลากหลายประเภทในอนาคตอันใกล้