Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

UAE ปูทางสตาร์ทอัพคริปโตโตแรง หากวางกลยุทธ์กฎระเบียบถูกจุด

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้สร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เหมาะสมสำหรับตลาดคริปโต แต่ยังคงมีสตาร์ทอัพจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ *หัวใจสำคัญ* คือการวาง ‘กลยุทธ์ด้านกฎระเบียบ’ ไว้เป็นศูนย์กลางของแผนการเข้าสู่ตลาด เพราะใน UAE ความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงหรือเมินกฎระเบียบนั้นไม่มีทางได้ผล สำหรับผู้ประกอบการที่เตรียมตัวมาอย่างดี กฎระเบียบในประเทศนี้จะส่งมอบ ‘ความรวดเร็ว’, ‘ความชัดเจน’ และ ‘ระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโต’

UAE เป็นสหพันธรัฐที่ประกอบด้วย 7 รัฐ ใช้ระบบกฎหมายสองแบบในการบริหารจัดการ ได้แก่ ระบบ ‘ภายในประเทศ’ (onshore) ที่อยู่ภายใต้กฎหมายแพ่งของ UAE ครอบคลุมเขตเศรษฐกิจเสรีมากกว่า 45 แห่ง และระบบ ‘เขตเสรีทางการเงิน’ (financial free zones) ที่มีศูนย์กลางสำคัญคือ ซูเปอร์ฮับอย่างตลาดโลกอาบูดาบี (ADGM) และศูนย์การเงินนานาชาติดูไบ (DIFC) ซึ่งอิงตามกฎหมายอังกฤษ และดำเนินการผ่านหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะของตน การเลือกใช้ระบบใดระบบหนึ่งส่งผลต่อหน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจควบคุมโดยสิ้นเชิง

ภายใน UAE มีหน่วยงานอย่างน้อย 5 แห่งที่ทำหน้าที่ควบคุมสกุลเงินดิจิทัล ในระบบภายในประเทศ หน่วยงานหลักประกอบด้วย ธนาคารกลาง(CBUAE), สำนักงานกำกับหลักทรัพย์(SCA) และสำนักงานกำกับสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งดูไบ(VARA) โดยธนาคารกลางดูแลเรื่องสเตเบิลคอยน์ที่อิงกับดีแรห์ม(AED) และการชำระเงินด้วยคริปโต ส่วน SCA ดูแลด้านการซื้อขายโทเคนและตลาดแลกเปลี่ยน ในขณะที่ VARA มีอำนาจในเขตดูไบทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่ DIFC

ขณะเดียวกัน เขตเสรีทางการเงินก็มีกฎระเบียบแยกกัน โดย ADGM อยู่ภายใต้สำนักงานกำกับบริการทางการเงิน(FSRA) ซึ่งเริ่มวางโครงร่างด้านกฎระเบียบระดับโลกตั้งแต่ปี 2018 ขณะที่ DFSA ซึ่งดูแล DIFC มีแนวทางที่รอบคอบและค่อยเป็นค่อยไป

โครงสร้างที่แยกจากกันนี้ ถือเป็นทั้ง ‘โอกาสและความเสี่ยง’ สำหรับสตาร์ทอัพ หากเลือกหน่วยงานผิด หรือไม่เข้าใจขอบเขตกฎระเบียบ ก็อาจพลาดโอกาสในการขอใบอนุญาต ดังนั้น การเลือกหน่วยงานที่ ‘เหมาะสมกับโมเดลธุรกิจ’ จึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิ่ง

ตัวอย่างเช่น หากต้องการเปิดตลาดซื้อขายคริปโต จำเป็นต้องเลือกจาก VARA, SCA หรือ ADGM ซึ่งแต่ละแห่งมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หากต้องการออกสเตเบิลคอยน์ที่เชื่อมกับดีแรห์มจะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยธนาคารกลาง หากวางแผนสร้างแพลตฟอร์มสำหรับโทเคนสินทรัพย์จริง (RWA) ก็ต้องทำความเข้าใจกฎการออกโทเคนใหม่ของ VARA อย่างครบถ้วน

สำหรับกองทุนร่วมลงทุนในโปรเจกต์คริปโต หน่วยงานที่เหมาะสมคือ FSRA ของ ADGM ซึ่งมีมาตรฐานการควบคุมที่สูงในระดับสากลและต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ในกรณีแอปชำระเงิน หากมีการจัดการเงินลูกค้า ก็ต้องคิดถึงบทบาทของธนาคารกลาง ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้มีแนวทาง ‘เน้นเบาสบาย’

การพยายามสร้างทุกอย่างพร้อมกันถือเป็นความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบ จะดีกว่า หากเริ่มจากการขอใบอนุญาตเพียงหนึ่งใบ เน้นสร้างผลงานและฐานลูกค้าที่ชัดเจน ก่อนจะขยายบริการในภายหลัง

หากต้องการประสบความสำเร็จในตลาดคริปโตของ UAE จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตั้ง ‘กฎระเบียบ’ เป็นศูนย์กลางของแผนธุรกิจตั้งแต่ต้น ศึกษาอย่างถี่ถ้วนถึงอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และวิธีเข้าถึงตลาด ซึ่งควรดำเนินการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในพื้นที่

แนวคิดเรื่อง ‘การลดกฎระเบียบ’ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ผลักดัน อาจใช้ไม่ได้ในที่นี่ เพราะใน UAE กฎระเบียบไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็น *เครื่องมือที่ช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน* ผู้ที่เลือก *ทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับ* อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องในระยะยาว ย่อมมีโอกาสกลายเป็นผู้นำในระบบนิเวศคริปโตของ UAE ได้ในที่สุด

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1