ริปเปิล(XRP) พุ่ง 7% หลังนโยบายงบประมาณสหรัฐฯ ดันราคาทะลุแนวต้านสำคัญ

ราคาของริปเปิล(XRP) พุ่งขึ้นเกือบ 7% ภายในเวลาเพียงสองวัน หลังการผ่านความเห็นชอบนโยบายงบประมาณฉบับใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ ‘Big Beautiful Bill’ จากวุฒิสภาสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาของ XRP ขยับจากระดับ 2.08 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,891 บาท) ขึ้นไปแตะ 2.22 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,086 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แรงซื้อที่เกิดจากความคาดหวังเริ่มอ่อนแรงลงหลังรายละเอียดของร่างกฎหมายและข้อจำกัดในทางปฏิบัติเริ่มเปิดเผยออกมา

นโยบายงบประมาณใหม่นี้คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงทิศทางการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งตลาดตีความว่าอาจนำไปสู่การดำเนิน ‘นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย’ มากขึ้น ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเคอร์เรนซีตอบรับเชิงบวกเร็วกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิม ในกรณีของ XRP ราคาได้พุ่งผ่านแนวต้านสำคัญที่ 2.15 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,987 บาท) ได้สำเร็จ ก่อนที่จะแผ่วลงเมื่อใกล้ระดับ 2.22 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในตลาดชี้ว่า ‘ความคาดหวังต่อกฎหมาย’ อาจถูกประเมินสูงเกินไป เนื่องจากร่างกฎหมายยังไม่ได้ผ่านการลงมติจากทั้งสภาสูงและสภาล่าง โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีการลงมติครั้งสุดท้ายในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ขณะที่ระยะเวลาที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างแท้จริงก็ยังไม่แน่นอน ทำให้เกิดความกังวลว่าตลาดอาจ ‘รับข่าวไปก่อน’ (Front-run) มากเกินไป

ถึงกระนั้น บรรดานักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจมหภาคยังคงมองว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจัดว่า *เอื้ออำนวยต่อคริปโต* ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการขาดดุลงบประมาณ การคงอยู่ของเงินเฟ้อ หรือแนวโน้มการลดลงของความเชื่อมั่นในดอลลาร์สหรัฐ ล้วนเป็นปัจจัยที่อาจสนับสนุนให้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์(BTC) และริปเปิล(XRP) มีความโดดเด่นในฐานะทางเลือกในการลงทุน หาก XRP สามารถรักษาราคาเหนือระดับ 2.15 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง ก็มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ช่วงราคาขาขึ้นระลอกใหม่

แม้ภาวะตลาดระยะสั้นอาจมีความร้อนแรงจากข่าวมากเกินไปและเสี่ยงเกิดความผันผวน แต่การปรับตัวของ XRP ครั้งนี้สะท้อนถึงแนวโน้มที่นักลงทุนเริ่มมองหาสินทรัพย์ *ปลอดภัยในรูปแบบดิจิทัล* มากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนเชิงนโยบายและเศรษฐกิจ สถานะของ XRP ในฐานะหนึ่งในผู้นำตลาดคริปโตจึงอาจยิ่งแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเวลาที่ความเสี่ยงระดับมหภาคยังคงอยู่