วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมาย ‘One Big Beautiful Bill’ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันแผนการเพิ่มเพดานหนี้มูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,950 ล้านล้านวอน ร่างกฎหมายดังกล่าวสร้างกระแสถกเถียงครั้งใหญ่ในกรุงวอชิงตัน โดยเฉพาะเรื่องภาระหนี้ขนาดมหึมา ขณะที่ผู้สนับสนุน *บิตคอยน์(BTC)* มองว่านี่อาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยดันราคาพุ่งสร้างสถิติใหม่ในปี 2025
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากข้อมูลในอดีต ยังไม่พบ ‘ความสัมพันธ์โดยตรง’ ระหว่างการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ กับราคาบิตคอยน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปรับเพดานหนี้ในหลายช่วงเวลา ก็ไม่ได้ส่งผลให้บิตคอยน์วิ่งขึ้นเสมอไป นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า การขยายหนี้ในระยะสั้นอาจสร้างความไม่แน่นอนต่อภาพรวมตลาด มากกว่าจะเป็นสัญญาณขาขึ้นถาวร
แม้ภาพรวมอาจยังไม่แน่ชัด แต่หนึ่งในประเด็นที่ชัดเจนคือ *ความยืดหยุ่นของบิตคอยน์* ที่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งท่ามกลางกระแสกังวลจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการคลังที่ขยายตัวมากเกินไปทำให้นักลงทุนบางส่วนหันมาประเมินบทบาทของบิตคอยน์ในฐานะ *‘ทองคำดิจิทัล’* มากขึ้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บิตคอยน์ได้แสดงศักยภาพของการฟื้นตัวในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือนโยบายทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน กระแสของการเพิ่มเพดานหนี้—which บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลกลางสหรัฐฯ—อาจกลายเป็นแรงผลักดันให้ความต้องการสินทรัพย์แบบไร้ศูนย์กลางอย่างบิตคอยน์เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า “ราคาบิตคอยน์ไม่ได้ผูกติดกับระดับหนี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับตัวแปรอื่น ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย สภาพคล่อง และภาวะเศรษฐกิจมหภาคโดยรวม” พร้อมเสริมว่า “เราควรระมัดระวังในการคาดหวังแนวโน้มขาขึ้นจากนโยบายใดนโยบายหนึ่งมากเกินไป” *ความคิดเห็น*
ความคิดเห็น 0