แจ็ก โคล(Zak Cole) นักพัฒนาหลักของอีเธอเรียม(ETH) เดินหน้านำร่องจัดตั้งองค์กรใหม่ในชื่อ ‘มูลนิธิชุมชนอีเธอเรียม’ (Ethereum Community Foundation หรือ ECF) โดยมีเป้าหมายชัดเจนคือ *ผลักดันราคาอีเธอเรียม(ETH) ให้แตะระดับ 10,000 ดอลลาร์* หรือประมาณ 1.39 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 2 ที่ผ่านมา ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ในงานประชุม Ethereum Community Conference ครั้งที่ 8 โคลได้ออกมาอธิบายเบื้องหลังการก่อตั้ง ECF โดยเขาระบุว่า *มูลนิธิอีเธอเรียม* ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถสนับสนุน ETH ในฐานะทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพพอ จึงจำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ในระดับชุมชนเพื่อยกระดับบทบาทของ ETH
ECF ประกาศตัวว่าเป็นองค์กรอิสระที่ไม่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิเดิม โดยในแถลงการณ์ทางการ พวกเขาระบุว่า “เราจะพูดในสิ่งที่มูลนิธิอีเธอเรียมไม่พูด ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ทำ และมุ่งสนับสนุนผลประโยชน์ของผู้ถือ ETH” พร้อมทั้งแสดงจุดยืนว่า จะเดินหน้า *ขยายระบบนิเวศของอีเธอเรียม* และยกระดับ *มูลค่าของ ETH ในตลาด* ไปพร้อมกัน
โคลยังเน้นอีกว่า ราคา ETH มี *ความสัมพันธ์โดยตรงกับความปลอดภัย* ของเครือข่ายอีเธอเรียม โดยเขาโพสต์ผ่าน X (เดิมคือ Twitter) ว่า “เหตุผลที่ ETH ควรมุ่งหน้าสู่ 10,000 ดอลลาร์ก็เพราะเรื่องความปลอดภัย” สะท้อนแนวคิดของ ECF ที่มองว่า *การขึ้นราคาของ ETH ไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุน แต่เป็นเสาหลักของเสถียรภาพเครือข่าย*
องค์กรยังมีแผนมอบเงินสนับสนุนแก่โครงการที่ส่งเสริมการ *เผาเหรียญ ETH* และช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของอีเธอเรียม โดยตั้งเงื่อนไขไว้ว่าโครงการจะต้อง *ใช้ ETH เป็นเลเยอร์จ่ายเงินหลัก* และมีลักษณะ ‘ไม่มีโทเคน’ และ ‘เปลี่ยนแปลงไม่ได้’ (immutable) เพื่อให้ธุรกรรมทั้งหมดดำเนินบนเมนเน็ตเท่านั้น ซึ่ง *เป็นกลยุทธ์ในการลดปริมาณเหรียญหมุนเวียนในระบบ*
ในภาพรวม การก่อตั้ง ECF แสดงให้เห็นถึงความพยายามครั้งใหม่ในวงการคริปโต ที่จะ *หยิบยกประเด็นมูลค่าเชิงสินทรัพย์ของ ETH มาพูดอย่างเปิดเผย* พร้อมผลักดันแนวทางปฏิบัติจริงเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักลงทุนที่เชื่อในศักยภาพระยะยาวของอีเธอเรียม
ความคิดเห็น 0