ริปเปิล(XRP) ยังคงเดินหน้า *ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง* จนสามารถแซงหน้าเทเธอร์(USDT) กลายเป็นสกุลเงินคริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับสาม โดยมีนักวิเคราะห์บางคนมองว่า ราคา XRP อาจพุ่งขึ้นได้ถึง *6 เท่า* จากระดับปัจจุบัน ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนเป็นวงกว้าง
จอห์น สไควร์(John Squire) ผู้ที่ได้รับการรู้จักในฐานะผู้สนับสนุน XRP เผยว่า เขาพบรูปแบบกราฟจากกรอบเวลา 2 สัปดาห์ของ XRP ที่คล้ายกับช่วงก่อนเกิดการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่เมื่อประมาณ 36 สัปดาห์ก่อน ซึ่งในครั้งนั้น XRP เพิ่มขึ้นเกือบ 6 เท่า โดยเขาอ้างว่า “ประวัติศาสตร์อาจไม่ซ้ำรอย แต่ก็มีท่วงทำนองเดิม” พร้อมคาดหวังว่าจะได้เห็นการพุ่งอีกระลอก
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ XRP จะพุ่งขึ้นถึง 6 เท่าก็ไม่ได้มาโดยง่าย เพราะหากไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณอุปทาน ราคาที่เพิ่มขึ้นจะต้องดันมูลค่าตลาดรวมขึ้นไปแตะที่ประมาณ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,668 ล้านล้านวอน) ซึ่ง *คิดเป็นเกือบ 3 เท่า* ของมูลค่าตลาดอีเธอเรียม(ETH) ในปัจจุบัน อีกทั้งยังต้องอาศัยแรงซื้อระดับหลายร้อยล้านดอลลาร์อย่างสม่ำเสมอในสภาวะสภาพคล่องตลาดที่ใกล้เคียงกับปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น การที่ XRP เพิ่มขึ้นเพียง 2% จะต้องมีคำสั่งซื้อใน *ไบแนนซ์* อย่างน้อย 12 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 167 พันล้านวอน) ขณะที่ไบแนนซ์นั้นถือเป็นตลาดหลักของ XRP ด้วยสัดส่วนการซื้อขายกว่า 14%
แต่ในความเป็นจริง ตลาดกลับแสดงสัญญาณ *พักฐาน* โดยปริมาณซื้อขาย XRP ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาลดลงถึง 15% สะท้อนถึงการชะงักของแรงซื้อ อย่างไรก็ดี ในภาวะแบบนี้ยังมีสัญญาณบวกเกิดขึ้น เมื่อ Thumzup Media บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดแนสแด็ก ประกาศแผนการลงทุน *มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ 3,475 พันล้านวอน) ในอัลท์คอยน์หลัก รวมถึง XRP ด้วย
ในขณะเดียวกัน ลาร์ก เดวิส(Lark Davis) นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ก็แสดงความเห็นในเชิงบวกต่อ XRP โดยระบุว่า หาก XRP สามารถยืนเหนือระดับราคาที่ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 วอน) ได้อย่างมั่นคง แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ช่วง 4.1 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,699 วอน) ถึง 4.5 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,255 วอน) ซึ่งหมายถึงการ “เข้าสู่โซนที่ไม่ปกติ”
ที่ผ่านมา XRP มักจะสลับกันระหว่าง *แรงคาดหวัง* และ *การผิดหวัง* จากนักลงทุนอยู่เสมอ แม้ในช่วงที่ปริมาณการซื้อขายลดต่ำลงและแรงซื้ออ่อนแรงลง ก็ตาม นักเก็งกำไรบางส่วนยังคงยึดกราฟเชิงเทคนิคในการคาดว่าน่าจะมีโอกาสรีบาวด์ การที่ XRP จะสามารถเพิ่มขึ้น 6 เท่าตามที่นักลงทุนสายบวกกล่าวไว้ได้จริงหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับ *ระดับสภาพคล่องของตลาดและจิตวิทยาการลงทุน* เป็นหลัก และเห็นได้ชัดว่า หากต้องการให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริง จะต้องมีแรงขับเคลื่อนในเชิง *เศรษฐกิจและเงินทุน* มารองรับอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น 0