กรรมการ SEC ชี้ไม่รอกฎหมายใหม่ เดินหน้าควบคุมคริปโตด้วยอำนาจปัจจุบัน

เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) หนึ่งในคณะกรรมการของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) แสดงจุดยืนว่าจะไม่รอการออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุม *คริปโตเคอร์เรนซี* โดยเธอจะใช้ *อำนาจที่มีอยู่* อย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนกฎระเบียบในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมเน้นว่ากฎหมายปัจจุบันก็เพียงพอที่จะให้ ‘แนวทางที่มีประสิทธิภาพ’ ในการกำกับดูแลได้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพียร์ซให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV โดยระบุว่า “มีหลายสิ่งที่เราสามารถทำได้ภายใต้กรอบอำนาจที่มีอยู่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายใหม่” โดยตั้งแต่ต้นปี SEC ได้ริเริ่มออกแนวทางหลายนโยบายเพื่อนำกฎหมายหลักทรัพย์ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้กับตลาดคริปโต ซึ่ง *ความคิดเห็น* ของเพียร์ซสะท้อนถึงความมุ่งมั่นเพื่อลด ‘ช่องว่างทางกฎหมาย’ ที่อาจเกิดขึ้นในระยะเปลี่ยนผ่าน

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมาธิการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐได้เปิดเผยร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโต ซึ่งได้รับเสียงวิพากษ์จากหลายฝ่ายในอุตสาหกรรม เช่น ริปเปิล(XRP) ว่ามอบ *อำนาจมากเกินไป* ให้กับ SEC โดยเพียร์ซกล่าวว่า “นี่เป็นกฎหมายที่ซับซ้อน และควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบด้านจากทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนฯ เราพร้อมร่วมมือกับทั้งสองฝ่าย”

เพียร์ซยืนยันว่าเธอสนับสนุนโครงการ ‘*Project Crypto*’ ของ SEC ซึ่งมุ่งเป้าการสร้างแนวทางกำกับที่ชัดเจนและอัปเดตกฎหมายหลักทรัพย์ให้ทันสมัย เพื่อรองรับตลาดคริปโตที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยระบุว่า “โครงการนี้ดำเนินไปได้ด้วยดี มีการประสานงานระหว่างหลายฝ่าย และมีการพบปะกับผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างสม่ำเสมอ”

ความร่วมมือระหว่าง SEC และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐ(CFTC) ก็เป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจากทั้งสองหน่วยงานเคยมีข้อพิพาทเกี่ยวกับ *เขตอำนาจ* ในการควบคุมคริปโต อย่างไรก็ตาม เพียร์ซเปิดเผยว่า “ความสัมพันธ์กับ CFTC นั้นเป็นไปในทิศทางที่ดี เราเคยทำงานร่วมกันในหลายประเด็นและยังคงดำเนินการอย่างใกล้ชิดต่อไป”

ถ้อยแถลงครั้งนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่า SEC จะไม่รอเพียงท่าทีจากรัฐสภาอีกต่อไป แต่จะขับเคลื่อน *ท่าทีอิสระ* ในการกำกับดูแลคริปโต เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจส่งผลต่อรูปแบบกฎระเบียบในอนาคต โดยนักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง SEC และสภาคองเกรสจะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดแนวทางตลาด *คริปโตเคอร์เรนซี* ในสหรัฐต่อไป