สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) กำลังเดินหน้าอย่างจริงจังในการนำ ‘การชำระเงินด้วยคริปโต’ มาใช้ โดยเฉพาะในภาคการบินและการท่องเที่ยวที่เริ่มปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีการชำระเงินดิจิทัลอย่างรวดเร็ว สายการบินเอมิเรตส์และแอร์อาราเบีย รวมถึงแพลตฟอร์มจองท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับคริปโตอย่างทราวาลา(Travala) และอัลเทอร์เนทีฟแอร์ไลน์ส(Alternative Airlines) ต่างเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลหลากหลายเป็นวิธีการชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และเหล่า ‘สเตเบิลคอยน์’ ที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งมุ่งเป้าดึงดูดกลุ่มผู้ใช้งานคริปโตและนักท่องเที่ยวที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี
UAE ยังได้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนระบบนิเวศคริปโต โดยหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการก่อตั้งหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของดูไบ(VARΑ) เพื่อส่งเสริมความชัดเจนด้านกฎระเบียบและรองรับนวัตกรรม ล่าสุด สายการบินเอมิเรตส์ประกาศว่าจะเริ่มใช้งานบริการชำระเงินด้วยคริปโตอย่าง ‘Crypto.com Pay’ ร่วมกับคริปโตดอทคอม(Crypto.com) ตั้งแต่ปี 2026 โดยจะเริ่มจากการรองรับบิตคอยน์, อีเธอเรียม, โครโนส(CRO), USDT และ USDC พร้อมแผนขยายไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 30 รายการในอนาคต
ทางด้านแอร์อาราเบียได้เปิดตัวการใช้งาน ‘AE คอยน์’ ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ยึดตามค่าเงินดีแรห์มของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘AED สเตเบิลคอยน์’ แนวคิดในครั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงและใช้งานการชำระเงินดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านสกุลเงินที่คุ้นเคย
แพลตฟอร์มทราวาลา(Travala) ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางสายคริปโต ก็เปิดให้ชำระด้วยบิตคอยน์, อีเธอเรียม, ไบแนนซ์คอยน์(BNB), รวมถึงโทเคนของแพลตฟอร์มเองอย่าง AVA ครอบคลุมตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ไปจนถึงกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้ผู้ใช้ใน UAE มีตัวเลือกในการจองบริการผ่านคริปโตอย่างครบวงจร
อัลเทอร์เนทีฟแอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจองตั๋วที่เชื่อมต่อกับสายการบินกว่า 650 แห่งทั่วโลก รวมถึงเอทิฮัดแอร์เวย์สและเอมิเรตส์ รองรับการชำระเงินด้วยคริปโตหลากหลาย เช่น ริปเปิล(XRP), ด็อจคอยน์(DOGE), คาร์ดาโน(ADA), และไลต์คอยน์(LTC) ด้านเดสตินียา(Destinia) ก็เปิดให้ใช้งานบิตคอยน์, อีเธอเรียม, และ USDT สำหรับจองเที่ยวบิน โรงแรม และรถเช่า
เวลาผ่านมากว่า 10 ปีนับจากที่เอียร์บัลติกจากลัตเวียกลายเป็นสายการบินแรกของโลกที่รับบิตคอยน์เมื่อปี 2014 ตอนนี้ดูเหมือนว่า ‘ตะวันออกกลาง’ โดยเฉพาะ UAE กำลังก้าวขึ้นรับไม้ต่อ ด้วยการเตรียมหยั่งรากการจ่ายเงินคริปโตลึกกว่าเดิม ไม่ใช่เพียงเพิ่มช่องทางการชำระเงิน แต่รวมไปถึงการพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ เช่น ‘โปรแกรมสะสมแต้มบนบล็อกเชน’ และ ‘ตั๋วแบบ NFT’
ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ผู้ใช้งานคริปโตควรเลือกใช้งานบนแพลตฟอร์มที่มีกฎระเบียบชัดเจน พร้อมจัดเก็บประวัติการทำธุรกรรมไว้อย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันก็ควรเตรียมกลยุทธ์สำหรับการแปลงคริปโตและรักษาความปลอดภัยของบัญชีให้พร้อม
เมื่อกลุ่ม ‘ดิจิทัลโนแมด’ และนักเดินทางสายเทคโนโลยีเพิ่มจำนวนขึ้น ความเคลื่อนไหวของ UAE ในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินด้วยคริปโต อาจถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในการเดินทางที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยและการบริการระดับโลกอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0