ราคาของอีเธอเรียม(ETH) ปรับตัวลดลง 1.4% มาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 4,300 ดอลลาร์ หรือราว 5.98 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายังคงแสดง ‘ความมั่นคง’ อย่างไม่คาดคิด โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มไบแนนซ์(Binance) ซึ่งปริมาณสัญญาค้างอยู่(Open Interest: OI) ยังคงสูงกว่า 8.4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.17 ล้านล้านวอน แม้ว่าราคาจะอ่อนตัวลง สะท้อนว่า *นักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นกับแนวโน้มขาลงในระยะสั้น*
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์เครือข่ายบล็อกเชนคริปโตควอนต์(CryptoQuant) ระบุว่า ณ วันที่ 30 สิงหาคม ปริมาณ OI ของอีเธอเรียมยังคงอยู่ที่ประมาณ 8.4 พันล้านดอลลาร์ โดยแม้ราคาจะร่วงลงต่ำกว่า 4,400 ดอลลาร์ แต่ตัวเลขนี้ไม่ได้ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งโดยปกติหากเกิดแรงเทขายอย่างรวดเร็ว จะมาพร้อมกับการลด OI อย่างชัดเจน สะท้อน ‘การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง’ ของตลาด แต่ครั้งนี้กลับตรงกันข้าม *นักลงทุนจำนวนมากยังคงถือครองสถานะ และไว้วางใจในโอกาสฟื้นตัว*
นอกจากนี้ อัตราการลดลงของ OI ก็เริ่มชะลอตัว โดยในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด OI ของอีเธอเรียมบนไบแนนซ์ลดลงเพียง 3.4% เปรียบเทียบกับสองวันก่อนที่ลดลงถึง 6.25% แสดงให้เห็นว่า *แรงเทขายที่เคยกดตลาดเริ่มอ่อนกำลังลง*
ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าปริมาณการซื้อขายสุทธิ (Net Taker Volume) ยังคงอยู่ในฝั่งลบระหว่าง -10.8 พันล้านถึง -11.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.5 ล้านล้านวอน แสดงถึงสภาวะที่ ‘แรงขาย’ ยังคงครองตลาด แต่การที่ OI ยังทรงตัวได้ หมายความว่า *แรงซื้อบางส่วนยังสามารถดูดซับแรงขายได้ในระดับหนึ่ง*
สำหรับตลาดซื้อขายจริง (Spot Market) ก็สะท้อนแนวโน้มบวก เมื่อคริปโตควอนต์เปิดเผยว่ามีการถอนอีเธอเรียมออกจากกระดานแลกเปลี่ยนหลัก เช่น ไบแนนซ์และคราเคน(Kraken) กว่า 120,000 ETH ต่อวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์นี้ถือเป็น ‘ปัจจัยสนับสนุนเชิงโครงสร้าง’ ที่ช่วยลดความเสี่ยงของแรงขายจากอุปทานในตลาด
ในอีกด้าน นักวิเคราะห์บางรายมองว่าการอ่อนตัวครั้งนี้อาจเป็น ‘กับดักหมี(Bear Trap)’ นักลงทุนคริปโตชื่อดัง จอห์นนี อู(Jonny Wu) กล่าวว่าแม้รูปแบบราคาของอีเธอเรียมจะดูคล้ายกับกราฟหัวไหล่แบบขาลง แต่เตือนว่านี่อาจเป็น ‘สัญญาณหลอก’ ที่ทำให้ผู้เล่นตลาดเข้าใจผิด พร้อมชี้ว่า หากราคาทรงตัวที่กรอบ 3,800-4,100 ดอลลาร์ หรือราว 5.28-5.70 ล้านบาท ได้อย่างมั่นคง มีโอกาสฟื้นตัวได้ในเดือนตุลาคม ซึ่งอุตสาหกรรมรู้จักกันดีในชื่อ *‘Uptober’* เนื่องจากมักเกิดแรงซื้อกลับอย่างคึกคัก
ท้ายที่สุด แม้เดือนกันยายนจะเป็นช่วงขาลง แต่อีเธอเรียมก็ยังไม่เสียสมดุล ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงละเอียดอ่อนที่ ‘ความกลัวในระยะสั้น’ และ ‘การสะสมเพื่อการลงทุนระยะยาว’ ปะทะกันอย่างชัดเจน ซึ่ง *ท่าทีของนักลงทุนในช่วงนี้จะเป็นตัวแปรกำหนดทิศทางในอนาคต*
ความคิดเห็น 0