การรวมเทคโนโลยีระหว่าง โคอินเบส(COIN) และ โซลานา(SOL) กำลังเข้าสู่ช่วงดำเนินการเต็มรูปแบบ ซึ่งกำลังเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ในการชำระเงินด้วยบล็อกเชน ล่าสุด ไบรอัน อาร์มสตรอง(Brian Armstrong) ซีอีโอของโคอินเบส ได้ประกาศผ่าน X (ชื่อเดิมคือ Twitter) ว่าการ *รวม* โปรโตคอล x402 เข้ากับโซลานาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการทดลองเชิงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเน้นไปที่การสร้าง ‘ทางเลือกในการชำระเงินที่ใช้งานได้จริง’ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
โปรโตคอล x402 ถูกออกแบบมาเพื่อรวมกระบวนการชำระเงินเข้ากับคำขอจากเว็บไซต์อัตโนมัติ โดยหลังจากผนวกรวมกับบล็อกเชนโซลานาเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานสามารถชำระเงินด้วย USD คอยน์(USDC) โดยไม่ต้องผ่านกระเป๋าดิจิทัลหลายขั้นตอนหรือกระบวนการที่ซับซ้อนอีกต่อไป *ความคิดเห็น* คือการพัฒนานี้ไม่เพียงเกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งานมนุษย์ แต่ยังสร้างโอกาสให้ ‘AI เอเยนต์’ ดำเนินการชำระเงินบนเว็บไซต์ได้เอง จึงถูกจับตามองว่าเป็นกรณีของ *การรวมกันอย่างแท้จริงระหว่าง AI และบล็อกเชน*
อาร์มสตรอง กล่าวว่าการเลือกโซลานาสำหรับการรวมระบบนี้เกิดจากความง่ายในด้านการนำไปใช้งานจริง โดยแม้ว่าบริษัทจะมีบล็อกเชนของตนเองชื่อว่า เบส(Base) แต่เลือกลงมือบนโซลานาก่อนเพราะเล็งเห็นจุดแข็งทั้งด้านความนิยมในช่วงวัฏจักรครั้งนี้ รวมถึง ‘TVL’ หรือมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ถูกล็อกไว้ในระบบ ที่สูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์ ความเห็นจากวงการชี้ว่านี่คือการตัดสินใจที่ *มุ่งเน้นการใช้งานจริงมากกว่าความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม*
แม้โคอินเบสจะเลือกใช้งานแพลตฟอร์มของค่ายคู่แข่ง แต่ อนาทอลี ยาโคเวนโก(Anatoly Yakovenko) ผู้ร่วมก่อตั้งโซลานา ก็ให้การต้อนรับข่าวนี้อย่างเปิดกว้าง พร้อมแสดงความยินดีโดยตรงต่อโพสต์ของอาร์มสตรอง ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความสำคัญของ *การเชื่อมต่อระหว่างบล็อกเชนต่างๆ* ซึ่งกำลังกลายเป็นหัวข้อสำคัญของอุตสาหกรรม
ความพิเศษของระบบใหม่นี้อยู่ที่การใช้งานได้ในทั้งระบบ B2B และ B2C โดยไม่ต้องเขียนโค้ดใหม่หรือสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม เพียงแค่เชื่อมต่อ x402 เข้ากับระบบเดิม เท่ากับเปิดประตูให้ธุรกิจทั่วไปเข้าถึงการชำระเงินด้วยบล็อกเชนได้ง่ายขึ้น ลดอุปสรรคเดิมและเติมเต็มช่องว่างของเทคโนโลยีที่เคยถูกมองว่าเข้าไม่ถึงผู้ใช้ทั่วไป
แม้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ‘อุปสรรคเชิงเทคนิคถูกลบไปแล้วมาก’ เมื่อการพัฒนา *AI เอเยนต์ที่สามารถชำระเงินบนโซลานา* กำลังเริ่มต้นอย่างจริงจัง เราอาจได้เห็นรูปแบบใหม่ของการชำระเงินอัตโนมัติ ค่าสมาชิกรายเดือน หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายด้านคลาวด์ ที่บล็อกเชนสามารถเข้ามาช่วยจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือภาพตัวอย่างของอนาคตที่ ‘AI และ USDC’ สามารถทำงานร่วมกันในชีวิตประจำวันอย่างราบรื่น
ความคิดเห็น 0