Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะใกล้แนวรับ 107,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อ-เฟดยังไม่ลดดอกเบี้ย

บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะใกล้แนวรับ 107,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อ-เฟดยังไม่ลดดอกเบี้ย / Tokenpost

ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนตัวลงในช่วงต้นเดือนกันยายน จากการปรับฐานของบิตคอยน์(BTC) ความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ย ความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ และแรงซื้อที่ลดลง ส่งผลให้ราคาของบิตคอยน์แม้จะพยายามดีดกลับขึ้น 0.15% แต่สุดท้ายก็ปิดตลาดลดลง 4.62% อยู่ที่ 108,246 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้กับแนวรับสำคัญที่ระดับ 107,000 ดอลลาร์ ตามรายงานประจำสัปดาห์เมื่อวันที่ 4 จากบริษัท เอเอ็มเมเนจเมนต์(AM Management)

รายงานดังกล่าวชี้ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐและทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟดมีอิทธิพลอย่างมากต่อสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะปรับขึ้นเป็น 3.3% แสดงถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ แต่แรงกดดันเงินเฟ้อกลับยังคงอยู่ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(PCE) ในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.3% ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าการประชุมนโยบายการเงินของ FOMC ในเดือนกันยายนมีโอกาสถึง 87.6% ที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 4.25% ซึ่งแนวโน้มดอกเบี้ยต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลตลาดแรงงาน

มูลค่าตลาดรวมของคริปโตร่วงลง 4.63% เหลือเพียง 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ บ่งชี้ถึงอารมณ์ของนักลงทุนที่ยังกังวล โดยสัดส่วนบิตคอยน์ในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 58.12% ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ลดลงเหลือ 14.32% ส่วนเทเธอร์(USDT) ซึ่งเป็น *เหรียญเสถียร* แบบตรึงค่าเงินกับดอลลาร์ กลับมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 4.53% สะท้อนถึงพฤติกรรมหันหาความปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง *ความคิดเห็น*: ตลาดกำลังเข้าสู่โหมดระวังภัยอย่างชัดเจน

ด้านเทคนิค แม้บิตคอยน์จะพยายามทะลุแนวต้านบริเวณ 117,000 ดอลลาร์ (CME Gap ด้านบน) แต่ไม่สำเร็จ ทำให้ราคาร่วงกลับมาอยู่ใกล้แนวรับ 107,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับวิกฤต หากหลุดจากแนวนี้ มีแนวโน้มเผชิญแรงขายเพิ่ม อย่างไรก็ตาม หากสามารถยืนราคาบริเวณนี้ได้ ก็มีโอกาสกลับไปทดสอบแนวต้านเดิมได้อีกครั้งในระยะสั้น

ข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในมุมมองของนักลงทุนแต่ละกลุ่ม โดยสัญญาคงค้างใน CME อยู่ในช่วงขาลง กลุ่มกองทุนเลเวอเรจยังคงถือสถานะขาย(short) ขณะที่กลุ่มดีลเลอร์และผู้จัดการสินทรัพย์ (Asset Manager) กลับเพิ่มสถานะซื้อ(long) ต่อเนื่อง โดยสถานะ long ของ Asset Manager เพิ่มจาก 29% เป็น 30.6% สะท้อนถึงมุมมองระยะกลางถึงยาวที่ยังเป็นบวก

ในสัปดาห์นี้ยังมีปัจจัยใหม่ที่อาจสร้างความผันผวน เช่น การปลดล็อกโทเคนจำนวนมากของโครงการเอสเซนา(Ethena) จำนวน 40.63 ล้านโทเคน, การอัปเกรดเมนเน็ตของเทลเลอร์(Tellor), และการปลดล็อกโทเคน 24.52 ล้านของอีมิวเทเบิล(Immutable) ประกอบกับรายงานด้านแรงงานของสหรัฐ, ดัชนีการเปิดรับสมัครงาน(JOLTS), ข้อมูลจ้างงานจาก ADP และข้อมูล CPI/PPI ของยุโรป ทำให้ตลาดอยู่ในภาวะที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

โดยสรุป แม้เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังดูแข็งแกร่ง แต่ ‘แรงกดดันเงินเฟ้อ’ และ ‘ความเสี่ยงจีน-ภูมิรัฐศาสตร์’ ยังคงเป็นแรงกระเพื่อมที่กดดันตลาด อนาคตระยะสั้นของบิตคอยน์จะขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถยืนเหนือแนวรับ 107,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่ และจะรีบาวด์แรงขึ้นหรือไม่ในช่วงสั้น ด้านแนวโน้มระยะกลาง ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบัน แต่สำหรับนักลงทุนทั่วไป อาจจำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์ป้องกันความเสี่ยงอย่างระมัดระวังต่อไป

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1