ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
สองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการขุดบิตคอยน์(BTC) สัญชาติอเมริกันอย่างไรออต แพลตฟอร์ม(Riot Platforms) และคลีนสปาร์ก(CleanSpark) รายงานผลประกอบการด้านการขุดประจำเดือนสิงหาคม โดยต่างก็โชว์ตัวเลขการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางความท้าทายจากระดับ ‘ความยากในการขุด’ ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
ไรออต แพลตฟอร์มเปิดเผยว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทสามารถขุดบิตคอยน์ได้รวมทั้งสิ้น *477 BTC* หรือเพิ่มขึ้น *48%* จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 322 BTC ในจำนวนนี้ บริษัทได้ขายออกไปแล้ว 450 BTC ทำรายได้ประมาณ *51.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือราว *720 ล้านบาท* พร้อมทั้งเผยว่าขณะนี้ บริษัทถือครองบิตคอยน์ทั้งหมด *19,309 BTC* ซึ่งเพิ่มขึ้น *92.7%* จากปีก่อน
ในขณะเดียวกัน คลีนสปาร์กก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตจาก *478 BTC* ในปีก่อน มาอยู่ที่ *657 BTC* ภายในเดือนเดียว เพิ่มขึ้นประมาณ *37.5%* โดยได้ขายไปแล้วกว่า *533.5 BTC* ทำรายได้ประมาณ *60.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือราว *843 ล้านบาท* ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา คลีนสปาร์กเริ่มเดินหน้านโยบาย ‘ใช้ทุนตัวเอง’ ในการดำเนินกิจการ โดยลดการพึ่งพาทุนภายนอก ปัจจุบันถือครองบิตคอยน์อยู่ *12,827 BTC* เพิ่มขึ้น *69.7%* จากปีก่อน
ผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทเกิดขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมการขุดที่เข้มข้นขึ้นอย่างมีนัย ในข้อมูลจาก CoinWarz ระบุว่า ‘ความยากในการขุดบิตคอยน์’ เพิ่มจาก *89.5 ล้านล้าน* ในเดือนสิงหาคม 2023 มาอยู่ที่ *129.7 ล้านล้าน* ในปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า *44.9%* ซึ่งหมายความว่าการขุดแต่ละบล็อกต้องใช้พลังการประมวลผลที่สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก
ท่ามกลางอุปสรรคนี้ ไรออต แพลตฟอร์มได้เพิ่ม ‘แฮชเรต’ หรือกำลังการประมวลผลเฉลี่ยจาก *14.5 EH/s* มาเป็น *31.4 EH/s* เพิ่มขึ้นถึง *116.6%* ขณะที่คลีนสปาร์กก็เดินหน้าขยายกำลังจาก *21.3 EH/s* ไปสู่ระดับ *43.3 EH/s* หรือเพิ่มขึ้น *103.3%*
*ความคิดเห็น:* การเร่งขยายแฮชเรตและประสิทธิภาพการขุดของทั้งสองบริษัทไม่ใช่แค่เพียงตัวชี้วัดด้านผลกำไรระยะสั้น แต่ยังสะท้อนถึง ‘ความสามารถในการอยู่รอด’ ในระยะยาว โดยเฉพาะในระบบนิเวศของบิตคอยน์ซึ่งการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ ยังมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ ภายใต้ ‘แนวโน้มผ่อนคลายด้านกฎระเบียบ’ ของทรัมป์ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเหมืองคริปโตสามารถพัฒนาในทิศทางที่มั่นคงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0