บิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะระดับ *112,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.63 ล้านบาท)* เมื่อวันที่ 26 (เวลาท้องถิ่น) ยืนยันถึงการเข้าสู่ช่วง ‘ฟื้นตัว’ อย่างชัดเจน โดยการซื้อเก็งกำไรในช่วงราคาต่ำทำให้แรงซื้อไหลเข้ามาอย่างหนาแน่น แม้เชิงเทคนิคจะดูเป็นขาขึ้น แต่ก็ยังมี ‘ความเป็นไปได้ของแรงขายทำกำไร’ ที่บริเวณราคาสูงสุด
แรงหนุนหลักของการดีดตัวกลับในครั้งนี้มาจากกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ *ETF บิตคอยน์แบบสปอต* โดยเมื่อวันที่ 25 บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลสินทรัพย์คริปโต SoSoValue รายงานว่ามีเงินทุนไหลเข้าสุทธิจำนวน *327 ล้านดอลลาร์ (ราว 4,625 ล้านบาท)* เข้าสู่ ETF ดังกล่าว นักลงทุนจำนวนมากเริ่มกระจายการลงทุนเข้าสู่บิตคอยน์ผ่านช่องทางต่างๆ จากความคาดหวังแนวโน้มขาขึ้นที่เพิ่มมากขึ้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่หนุน *ความเชื่อมั่นของนักลงทุน* คือราคาทองคำที่ทะยานทำสถิติใหม่ โดยในวันเดียวกัน ราคาทองคำทะลุระดับ *3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 4.86 แสนบาท)* ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ ข้อมูลจาก Cointelegraph ระบุว่าในอดีต บิตคอยน์มักจะปรับตัวขึ้น ‘ตามหลัง’ ราคาทองคำภายในช่วงเวลาหนึ่ง โดยมีค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นราว *30% ภายใน 3 เดือน* และสูงสุด *ถึง 225% ภายใน 12 เดือน* ภายหลังจากราคาทองคำแตะจุดสูงสุด หากรูปแบบนี้ยังคงเกิดขึ้นอีกครั้ง นักวิเคราะห์มองว่าบิตคอยน์มีโอกาสแตะระดับ *135,000–145,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 18.76–20.17 ล้านบาท)* ก่อนสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกัน อัลท์คอยน์เจ้าหลักบางสกุลก็เริ่มออกตัวฟื้นจากระดับแนวรับ ซึ่งสะท้อนว่า ‘ความร้อนแรง’ กำลังแพร่กระจายไปทั่วตลาด การเคลื่อนไหวของราคาและดัชนีจิตวิทยาตลาดในทางบวก บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่บิตคอยน์จะกลับมากุม ‘ทิศทางหลักของตลาดคริปโต’ อีกครั้งในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0