ตลาดเงินกู้ในระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง(DeFi) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2025 โดยข้อมูลจากไบแนนซ์ รีเสิร์ช(Binance Research) ระบุว่า ยอดเงินทั้งหมดที่ถูกล็อคไว้ในโปรโตคอลต่างๆ หรือ TVL ของ DeFi เพิ่มขึ้นกว่า *72%* ตั้งแต่ต้นปี จากระดับ 53,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.76 ล้านล้านบาท) พุ่งทะลุ *127,000 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ 4.23 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนสถาบันหันมาใช้ *สเตเบิลคอยน์* และ *สินทรัพย์แบบโทเคนไรซ์* (การแปลงสินทรัพย์จริงให้อยู่ในรูปดิจิทัล) อย่างกว้างขวาง
แรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตครั้งนี้คือโมเดล *การปล่อยกู้แบบไร้สถาบัน* ผ่านสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถฝากหรือขอกู้สินทรัพย์ได้โดยไม่ต้องพึ่งสถาบันการเงินหรือคนกลาง ความนิยมในระบบปล่อยกู้ที่ใช้ *สินทรัพย์จริง (RWA)* เป็นหลักประกันยังเพิ่มระดับความมั่นคง ทำให้ *กองทุนบำเหน็จบำนาญ* และ *เฮดจ์ฟันด์* ต่างก็เริ่มทยอยเข้ามาลงทุนในภาคส่วนนี้อย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนนอกสถาบันและภาคธุรกิจทั่วไปที่ต้องการสร้างรายได้จากดอกเบี้ยก็หันมามีบทบาทในตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม *ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระบุว่า การไล่ล่าผลตอบแทนโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงอาจเป็นอันตราย *ผู้บริหารของ Sharplink Gaming* เตือนว่า “บริษัทคริปโตที่พุ่งเป้าแค่ผลตอบแทนอาจจะเป็นกลุ่มที่เจอกับความเสี่ยงมากที่สุด”
ด้านหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐก็เริ่มแสดงท่าทียืนยันว่าจะควบคุมภาคส่วนนี้อย่างจริงจัง โดยเมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า(CFTC) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อประสานงานการกำกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท *คริปโตแบบสปอต (Spot Market)* ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางนโยบายใหม่ภายใต้ *ทรัมป์* ที่มุ่งชัดเจนเรื่องความโปร่งใสด้านกำกับดูแล *ความคิดเห็น* ในแวดวงเชื่อว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้กับตลาด DeFi ได้อย่างดี
อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามคือ การที่วงการเงินกู้ DeFi เริ่มเชื่อมโยงกับ *เศรษฐกิจจริง* มากขึ้น และกำลังทำลายเส้นแบ่งระหว่างการค้านอกระบบกับวงการบริหารสินทรัพย์กระแสหลัก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยผสานเข้ากับแนวทางกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น *ความคิดเห็น* ในวงการชี้ว่าหากทั้งสองส่วนสามารถประสานกันได้อย่างลงตัว ตลาดการเงินแบบไร้ศูนย์กลางก็จะเติบโตไปได้ไกลกว่าเดิมมาก
ความคิดเห็น 0