บริษัท ริเวอร์(River) ผู้ให้บริการด้านการเงินเกี่ยวกับบิตคอยน์(BTC) ในสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ลูกค้าธุรกิจเฉลี่ยเลือกที่จะ ‘นำกำไรสุทธิราว 22% กลับไปลงทุนในบิตคอยน์’ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่องและ ‘ขยายตัวในระดับองค์กร’ ทั่วทั้งอุตสาหกรรม
แซม เบเคอร์(Sam Baker) นักวิเคราะห์ของริเวอร์ซึ่งเป็นผู้จัดทำรายงาน ระบุว่า ‘กลุ่มลูกค้าจากภาคอสังหาริมทรัพย์’ มีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนที่สุดในแง่ของการเปลี่ยนสินทรัพย์ไปยังบิตคอยน์ โดยองค์กรในภาคนี้ลงทุนซ้ำในบิตคอยน์เฉลี่ยราว 15% ของรายได้ ตามมาด้วยกลุ่มโรงแรม, ธุรกิจการเงิน และซอฟต์แวร์ ซึ่งจัดสรรค่าเฉลี่ยอยู่ที่ราว 8 ถึง 10%
เบเคอร์ให้ความเห็นว่า “ความเคลื่อนไหวโดยสมัครใจนี้จากอุตสาหกรรมทั่วไป แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์ไม่ใช่แค่การทดลองขององค์กรบางแห่งอีกต่อไป” พร้อมเสริมว่าแม้แต่ ‘สตูดิโอฟิตเนสขนาดเล็ก, ร้านซ่อมหลังคา, โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ รวมถึงองค์กรไม่แสวงหากำไรในภาคศาสนา’ ต่างก็เริ่มยอมรับการถือครองหรือรับชำระเงินด้วยบิตคอยน์ ซึ่งเขามองเป็นสัญญาณบวกว่าแนวโน้มนี้จะมีการขยายวงกว้างในอนาคต
แม้ว่าราคาบิตคอยน์จะยังคงมีความผันผวนตามสภาพตลาด แต่แนวโน้มการใช้งานในเชิงธุรกิจก็ยังเติบโตขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ บ่งชี้ว่า ‘องค์กรกำลังพิจารณาคริปโตเป็นสินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ระยะยาว’ มากกว่าจะเล่นกับการเก็งกำไรในระยะสั้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับความนิยมใน ‘ทรัพย์สินแบบไร้ศูนย์กลาง’ ที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักธุรกิจหัว保守 ภายใต้สมัยการบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์
ความคิดเห็น 0