พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network) ขึ้นเวทีใหญ่ TOKEN2049 พร้อมปลดล็อก 13 ล้านโทเคน กระตุ้นความหวังฟื้นตัว

โครงการคริปโตชื่อดัง *พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network)* เตรียมเข้าร่วมงาน TOKEN2049 ที่จัดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ ในฐานะ *ผู้สนับสนุนระดับโกลด์* โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 25,000 คน ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญในการขยายบทบาทของพายเน็ตเวิร์กในชุมชนเว็บ3 ทั่วโลก ขณะเดียวกัน ดร.แฟน เฉิงเตียว ผู้ร่วมก่อตั้งพายเน็ตเวิร์ก มีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์หลักในงาน ซึ่งถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการเน้นถึง ‘การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตให้เกิด *ประโยชน์ต่อสังคมในชีวิตจริง*’ รวมถึงทิศทางการพัฒนาของโครงการในอนาคต

ดร.แฟนจะกล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมเว็บ3 ในปัจจุบัน ปัญหาที่ต้องเผชิญ และเส้นทางของนวัตกรรมในยุคต่อไป พร้อมทั้งย้ำเป้าหมายของพายเน็ตเวิร์กในการสร้าง ‘*การรับรู้ในระดับโลก*’ และส่งเสริม ‘*ค่านิยมของชุมชนเป็นศูนย์กลาง*’ ซึ่งตัวแทนของโครงการระบุว่า การขึ้นเวทีครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญต่อการขยายฐานผู้ใช้และสร้างความเข้าใจในวิสัยทัศน์ของโครงการ

TOKEN2049 เป็นงานคริปโตระดับโลกที่ไม่ได้จำกัดแค่การนำเสนอข้อมูลเท่านั้น แต่ยังเปิดเวทีให้ผู้ก่อตั้งโครงการ นักลงทุน นักพัฒนา และสื่อจากทั่วโลกมารวมตัวกัน โดยปีนี้มีกำหนดผู้บรรยายถึง 300 คน ซึ่งคาดว่าเวทีของพายเน็ตเวิร์กจะได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากทั้งอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในงาน ‘คอนเซนซัส(Consensus)’ ที่จัดขึ้นที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา ซีอีโอร่วมของโครงการอย่าง นิโคลัส โคคาลิส ก็เคยขึ้นเวทีนำเสนอไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้กระแสความคาดหวังภายในงานจะสูง แต่ *ราคาของ PI* กลับยังอยู่ในทิศทางขาลง อ้างอิงจากเว็บไซต์ CoinGecko ในช่วงล่าสุด PI มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.34 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 470 บาท) โดยลดลงราว *15% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา* แม้สิ้นเดือนสิงหาคมจะมีการฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ก็กลับมาร่วงลงอีกครั้ง

*ความคิดเห็น*ของผู้เชี่ยวชาญบางรายแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ *การปลดล็อกโทเคน* ครั้งใหญ่ในวันที่ 21 ของเดือนนี้ โดยจะมีโทเคนกว่า 13 ล้าน PI ถูกปลดล็อกเข้าสู่ตลาด หากผู้ถือสินทรัพย์ที่รอขายมายาวนานตัดสินใจเทขาย ก็อาจส่งผลให้ราคาเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทีมพายเน็ตเวิร์กมองว่า หลังช่วงเวลาดังกล่าว อัตราการปลดล็อกจะเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งทำให้มี ‘*ความหวังต่อการฟื้นตัวของราคาในระยะกลางถึงยาว*’

ขณะเดียวกัน โครงการยังเผชิญกับคำถามเรื่อง ‘การเปลี่ยนเข้าสู่เมนเน็ตอย่างเต็มรูปแบบ’ และ ‘การนำมาใช้ในเศรษฐกิจจริง’ รวมถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับกลไกราคาและการจดทะเบียนในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนหลัก อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานระบุว่าจะยังคงเดินหน้าเข้าร่วมเวทีต่างประเทศเพื่อแสดงให้เห็นถึง ‘*ความชอบธรรมทางเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์ระยะยาว*’ อย่างต่อเนื่อง