Pi Network เร่งเครื่อง! เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่-รุกตลาดยุโรป ท่ามกลางราคา PI ผันผวน

สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่คึกคักสำหรับ ‘พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network)’ ด้วยข่าวสารหลากหลาย ตั้งแต่ความผันผวนของราคาโทเคน ‘พาย(PI)’ จนถึงการพัฒนาเชิงเทคนิค การเข้าตลาดยุโรป และการเป็นผู้สนับสนุนงานระดับโลกครั้งใหญ่ กระแสความคาดหวังจากชุมชนกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางแผนขยายระบบนิเวศที่ถูกเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง

ราคาโทเคนพาย แตะจุดต่ำสุดที่ 0.33 ดอลลาร์ (ประมาณ 460 บาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก่อนจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 0.39 ดอลลาร์ (ประมาณ 540 บาท) ในวันเสาร์ ทว่าช่วงต้นสัปดาห์นี้ก็ดีดตัวกลับลงมาที่บริเวณ 0.34 ดอลลาร์ (ประมาณ 470 บาท) ทำให้ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ความไม่ชัดเจนของทิศทางตลาดยังคงเป็นประเด็นสำคัญ

ท่ามกลางความผันผวนของราคานั้น ทีมพัฒนาหลักได้ประกาศความคืบหน้าเชิงเทคนิคที่สำคัญ โดยโหนดในระบบจะรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมลินุกซ์ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ถูกเรียกร้องมาอย่างยาวนาน การอัปเดตดังกล่าวมีผลให้ราคามีการตอบรับเชิงบวกทันที ยิ่งไปกว่านั้น พายเน็ตเวิร์กยังเตรียมอัปเกรดจากโปรโตคอลเวอร์ชัน 19 ไปยังเวอร์ชัน 23 ของระบบ ‘สเตลลาร์(Stellar)’ ซึ่งจะรวมกระบวนการ ‘KYC’ เข้าไว้ในสมาร์ทคอนแทรกต์โดยตรง เพื่อยกระดับความปลอดภัยและการกระจายศูนย์ แนวคิดการกระจายอำนาจในการรับรองจากหลายสถาบันที่เชื่อถือได้ในอนาคตก็ถือเป็นอีกหนึ่งแผนที่น่าจับตามอง

ด้านการขยายสู่ตลาดยุโรป โทเคนพายได้สร้างความเคลื่อนไหวชัดเจน โดยมีการประกาศว่าถูกจัดให้มีการซื้อขายในรูปแบบสินค้า ETP (ผลิตภัณฑ์ซื้อขายตามดัชนี) บนตลาดสปอตไลท์ของสวีเดน ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในกรุงสตอกโฮล์ม ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนในตลาดทุนแบบดั้งเดิมสามารถเข้าถึงโทเคนพายผ่านโบรกเกอร์ทางการ การเข้าสู่ ‘นักลงทุนสถาบัน’ อย่างเป็นทางการจึงดูจะกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของโครงการนี้

อีกความสำเร็จที่น่าจับตาคือ การที่พายเน็ตเวิร์กประกาศเข้าร่วมเป็น ‘สปอนเซอร์ระดับโกลด์’ ของงาน Token2049 ที่จัดขึ้นในสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นงานประชุมของอุตสาหกรรมคริปโตขนาดใหญ่ระดับโลก งานนี้มีบริษัทชั้นนำอย่าง คอยน์เบส(COIN), เซอร์เคิล และบิตเก็ต เข้าร่วมมากกว่า 1,000 โครงการ บวกกับนักลงทุนสถาบันอีกจำนวนมาก โอกาสในการสื่อสารระหว่างทีมพัฒนาและชุมชนจึงจะมีสูง นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมการรับรู้แบรนด์และสถานะของพายในอุตสาหกรรมอีกด้วย

ในประเด็นด้านโทเคนโนมิกส์ วันนี้มีโทเคนพายประมาณ 5.3 ล้านเหรียญที่ถูกปล่อยเข้าสู่ระบบซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 1.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 25 ล้านบาท) และในวันที่ 6 จะมีโทเคนเพิ่มเติมอีกกว่า 12 ล้านเหรียญ ถูกปลดล็อกออกมาภายในวันเดียว เป็นมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 56 ล้านบาท) แม้จำนวนนี้จะน้อยกว่าสถิติสูงสุดที่เคยปลดล็อก 19 ล้านเหรียญเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม แต่น่าจะส่งผลกระทบระยะสั้นต่อแนวโน้มราคา

โดยสรุป พายเน็ตเวิร์กกำลังเร่งสร้างฐานรากสามด้าน ได้แก่ *ความมั่นคงด้านราคา ฐานผู้ใช้ และเทคโนโลยี* พร้อมยกระดับบทบาทในเวทีโลก การเปลี่ยนแปลงในรอบนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบธรรมาภิบาลและความไว้วางใจในระบบนิเวศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 30 วันข้างหน้า ซึ่งจะมีการปลดล็อกโทเคนกว่า 153 ล้านเหรียญ การเคลื่อนไหวของโครงการในช่วงนี้จะเป็นตัวกำหนดภาพรวมของตำแหน่งทางตลาดของพายในระยะยาวอย่างแน่นอน ‘ความคิดเห็น’: ความพยายามยกระดับสู่ตลาดการลงทุนกระแสหลัก กำลังพา Pi Network เข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญทั้งในเชิงเศรษฐกิจและการยอมรับระดับโลก