โซเดีย คัสโตดี ยุติบริษัทร่วมทุนกับเอสบีไอในญี่ปุ่น หลังดำเนินงาน 2 ปี

บริษัทโซเดีย คัสโตดี(Zodia Custody) ผู้ให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(Standard Chartered) ได้ประกาศยุติบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มเอสบีไอ โฮลดิงส์ของญี่ปุ่น หลังจากดำเนินการร่วมกันมาเป็นเวลา 2 ปี ถือเป็นการปรับกลยุทธ์ในตลาดเอเชียอีกครั้ง

ในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เมื่อวันที่ 24 โซเดีย คัสโตดี เปิดเผยว่า *“เอสบีไอกับเราต่างมีลำดับความสำคัญที่แตกต่างกัน ซึ่งการยุติความร่วมมือครั้งนี้เป็นผลจากการจัดกลยุทธ์ระหว่างกัน”* โดยบริษัทร่วมทุน ‘SBI โซเดีย คัสโตดี’ เริ่มก่อตั้งในปี 2021 เพื่อเจาะตลาดการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในญี่ปุ่น โดยกลุ่มเอสบีไอถือหุ้น 51% และโซเดียถือครอง 49%

เป้าหมายสำคัญของบริษัทร่วมทุนนี้คือ การให้บริการ ‘การดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล’ ระดับสถาบัน ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่แตกต่างในตลาดญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่สามารถจดทะเบียนเป็นผู้ให้บริการด้านการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลกับสำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (FSA) ได้สำเร็จ โดย จูเลียน ซอว์เยอร์(Julian Sawyer) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโซเดีย เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมเอกสารสำหรับยื่นขอจดทะเบียนแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ได้ตัดสินใจยุติบริษัทร่วมทุนก่อนส่งเอกสารดังกล่าว

คำแถลงนี้สะท้อนว่า การถอนตัวไม่ได้เกิดจากความล้มเหลวด้านการกำกับดูแลหรือการถูกปฏิเสธใบอนุญาต แต่เป็น ‘การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์’ ของโซเดีย อย่างไรก็ตาม มีความเห็นว่าความผันผวนในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลของเอเชีย โดยเฉพาะในตลาดญี่ปุ่น อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจครั้งนี้

โซเดีย คัสโตดี เป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากหลายสถาบันการเงินขนาดใหญ่ทั่วโลก ไม่เพียงแต่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด แต่ยังรวมถึงนอร์เทิร์นทรัสต์(Northern Trust) ซึ่งกำลังขยายธุรกิจในยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ การถอนตัวจากญี่ปุ่นครั้งนี้จึงอาจมีผลต่อยุทธศาสตร์ระยะยาวของโซเดียทั่วโลก ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิดต่อไป