สำนักงานบริการทางการเงินนิวยอร์ก (NYDFS) ได้ย้ำจุดยืนอีกครั้งเมื่อวันที่ 24 ว่าธนาคารที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของนิวยอร์กจะต้องใช้ *เครื่องมือวิเคราะห์บล็อกเชน* เพื่อเฝ้าติดตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตทั้งของตนเองและของลูกค้า พร้อมระบุว่ากฎเก่าที่ยังคงใช้บังคับอยู่ก็คือ **การต้องขออนุญาตล่วงหน้าก่อนเปิดให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลใด ๆ**
การดำเนินการครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่ธนาคารกระแสหลักเริ่มเข้าสู่ธุรกิจคริปโตมากขึ้น ส่งผลให้เกิด *ความเสี่ยงรูปแบบใหม่* ที่ระบบบริหารความเสี่ยงแบบเดิมไม่สามารถรองรับได้ หน่วยงานจึงกำหนดให้สถาบันการเงินต้องทำการตรวจสอบที่มาของเงิน, ประเมินความเสี่ยงฟอกเงิน และวิเคราะห์การเปิดรับความเสี่ยง ผ่านการตรวจสอบด้วยบล็อกเชนต่อกระเป๋าเงินของลูกค้าอย่างละเอียด
อาเดรียน แฮร์ริส (Adrienne Harris) ผู้ควบคุมการเงินของ NYDFS กล่าว “เมื่อสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเข้าสู่พื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัล ระบบการปฏิบัติตามกฎระเบียบก็จำเป็นต้องพัฒนาไปด้วย” เธอเน้นว่า NYDFS กำลังจัดวาง *มาตรฐานที่ชัดเจนและโปร่งใส* เพื่อให้สถาบันการเงินของนิวยอร์กยังคงสามารถแข่งขันได้บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นและการคุ้มครองผู้บริโภค
ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยย้อนกลับไปในปี 2022 NYDFS เคยเสนอร่างแนวทางที่คล้ายกัน โดยระบุว่า *การใช้เครื่องมือวิเคราะห์บล็อกเชน* ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตรวจสอบการดำเนินงานของธนาคาร
จุดยืนของ NYDFS ที่ยังคงเข้มงวดสวนทางกับแนวโน้มของหน่วยงานกลางสหรัฐฯ อย่างธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ที่กำลังผ่อนปรนขั้นตอนในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ NYDFS ยืนยันชัดเจนว่าจะยังคงใช้ *กระบวนการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดในระดับรัฐนิวยอร์ก*
ในประกาศครั้งนี้ NYDFS ยังเผยแพร่แนวทางการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์บล็อกเชน พร้อมระบุมาตรฐานบังคับใช้ที่ธนาคารและบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลต้องปฏิบัติตาม บริษัทที่ต้องการให้บริการด้านนี้ในนิวยอร์กต้องผ่านขั้นตอนอนุมัติเฉพาะ ซึ่งทางการจะใช้ในการประเมินศักยภาพในการจัดการความเสี่ยง
*ความคิดเห็น*: นโยบายใหม่นี้สะท้อนว่า *เป้าหมายหลักของการบังคับใช้บล็อกเชนในภาคการเงินคือการป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและเสริมความมั่นคงของตลาด* และยังเป็นเครื่องชี้ชัดว่า ‘นิวยอร์ก’ ยังคงเป็นหนึ่งในเขตอำนาจที่มี *กฎระเบียบด้านคริปโตเข้มงวดที่สุด* ในโลก.
ความคิดเห็น 0