เฟดลดดอกเบี้ยครั้งแรกปี 2025 ดันบิตคอยน์(BTC) ฟื้นตัว - XRP และ DOGE เปิดตัว ETF ในสหรัฐฯ

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ประกาศ ‘ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในปี 2025’ ซึ่งส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึงตลาดคริปโตฯ ปรับตัวตอบสนองทันที โดยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) สิ้นสุดลง บิตคอยน์(BTC) ปรับตัวขึ้นชั่วคราว ระหว่างที่อีทีเอฟแบบสปอตที่อิงกับริปเปิล(XRP) และโดจคอยน์(DOGE) ได้รับการจดทะเบียนในตลาดสหรัฐ สร้างหมุดหมายใหม่ให้กับวงการ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่แถวระดับ 115,000 ดอลลาร์ (ราว 15.98 ล้านบาท) ก่อนการประชุม FOMC และไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนที่ 118,000 ดอลลาร์ (ราว 16.4 ล้านบาท) หลังประกาศลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ราคากลับอ่อนตัวจากแรงขาย และปรับฐานมาอยู่แถว 116,000 ดอลลาร์ (ราว 16.1 ล้านบาท) อีกครั้ง โดยแม้ภาพรวมของสัปดาห์จะปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับการพุ่งแรงของอัลท์คอยน์ตัวอื่น บิตคอยน์ถือว่ากลับมาเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด

ในทางกลับกัน ไบแนนซ์คอยน์(BNB) ทำสถิติใหม่ทะลุระดับ 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.39 แสนบาท) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่เหรียญไฮเปอร์ลิควิด (HYPE) ที่กำลังเป็นกระแสก็พุ่งขึ้นถึงระดับ 59 ดอลลาร์ (ประมาณ 8.2 หมื่นบาท) ด้านอวาลานเช่(AVAX) ก็โดดเด่นด้วยการปรับตัวขึ้นถึง 20% ภายในสัปดาห์เดียว

การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นผลจากแรงกดดันอย่างต่อเนื่องของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเรียกร้องให้มีนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายมากขึ้น ในที่สุด ธนาคารกลางจึงประกาศลดดอกเบี้ยลง 25 จุดเบส ตลาดตอบสนองเบื้องต้นค่อนข้างเงียบ เนื่องจากราคาสะท้อนความคาดหวังไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่การที่บิตคอยน์ฟื้นตัวอีกครั้ง กลับสะท้อนว่า ตลาดเริ่มกลับมามองโลกในแง่ดีอีกครั้ง

ไฮไลท์สำคัญของสัปดาห์คือการเปิดตัว ‘ETF แบบสปอต’ ที่อิงกับริปเปิล(XRP) และโดจคอยน์(DOGE) เป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ โดยบริษัท REX-Osprey เป็นผู้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งสามารถดึงดูดเงินลงทุนได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ XRP ETF ที่ได้รับความสนใจเกินคาด และขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของการนำคริปโตฯ เข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเต็มตัว

อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) อดีตซีอีโอของบิทเม็กซ์ ได้ให้ความเห็นผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลว่า หากผู้ที่ทรัมป์เสนอชื่อให้เป็นกรรมการ Fed ได้รับการยืนยันตำแหน่ง อาจทำให้ตลาดคริปโตฯ ได้รับเม็ดเงินใหม่หลั่งไหลเข้ามาอีกครั้ง โดยเขาระบุว่า ‘บิตคอยน์ 1 ล้านดอลลาร์’ (ประมาณ 13.9 ล้านบาท) เป็นไปได้ พร้อมเน้นว่า “สหรัฐฯ จะไม่หยุดพิมพ์เงิน และบิตคอยน์จะกลายเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงขั้นสุดท้าย”

ด้านอีเธอเรียม(ETH) ก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน ก่อนการเปิดตัวเมนเน็ต ‘Fusaka’ ที่คาดว่าจะเปิดใช้ในเดือนธันวาคมนี้ ทางโครงการได้เผยแพร่แผนงานด้านเทคโนโลยีอย่างละเอียด โดยจะเริ่มทยอยอัปเกรดในแต่ละขั้นเฟสตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป จุดประสงค์ของการพัฒนาครั้งนี้คือการปรับปรุงขีดความสามารถในการขยายตัวและลดค่าธรรมเนียมของเครือข่าย

ขณะที่ราคาของบิตคอยน์เริ่มนิ่ง ราคาทองคำกลับทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของบิตคอยน์ในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ โดยบางฝ่ายเห็นว่าความสามารถในการเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงของบิตคอยน์เริ่มลดลง ทำให้เกิดความระแวงว่า ราคาบิตคอยน์อาจถึงจุดสูงสุดไปแล้ว คล้ายกับสถานการณ์ในปี 2021

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ได้เลื่อนการตัดสินใจเรื่องการอนุมัติ ETF บิตคอยน์ที่ถูกเสนอโดย Truth Social ของทรัมป์ แม้จะดูว่าทางการยังมีท่าทีลังเล แต่ ETF ที่อิงกับ XRP และ DOGE ได้แสดงศักยภาพในการพลิกกระแสตลาดอย่างชัดเจน โดยรวมแล้ว สัปดาห์นี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ ‘สัญญาณจากภาครัฐ’ และ ‘เหตุการณ์เชิงโครงสร้าง’ อย่างการเปิดตัว ETF ใหม่ ผนวกเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดคริปโตฯ อย่างแท้จริง