ตลาดคริปโตเปิดปี 2025 ด้วยสัญญาณลบ โดยเฉพาะราคาของบิตคอยน์(BTC) ที่ยังคงเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ปีเตอร์ ชิฟ(Peter Schiff) นักวิจารณ์บิตคอยน์ชื่อดัง ออกมาเตือนอีกครั้งว่า *“นี่เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น”* พร้อมชี้ให้เห็นสูตรของการร่วงลงในรอบนี้ ความเห็นของเขากำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน
ปีเตอร์ ชิฟ เป็นที่รู้จักในวงการจากจุดยืนที่เชื่อมั่นในทองคำและเงิน พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์สินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะบิตคอยน์มาโดยตลอด ในโพสต์ล่าสุดบนโซเชียลมีเดีย เขาอธิบายว่า การดิ่งลงของราคาบิตคอยน์ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การปรับฐานทางเทคนิค แต่เป็นสัญญาณของ *“การเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยาและโครงสร้างตลาดที่พังทลาย”* โดยมีจุดสำคัญว่า *“หากนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือบิตคอยน์ระยะยาวเริ่มทยอยขายออก ตลาดจะถูกถล่มด้วยแรงขาย และราคาบิตคอยน์อาจร่วงอย่างรุนแรง”*
เขาเน้นว่า แม้ตอนนี้บิตคอยน์ส่วนใหญ่ยังคงถูกรักษาไว้ในพอร์ตของนักลงทุนและยังไม่ถูกนำออกมาขาย แต่ถ้าเริ่มเห็นการขายจริงจากผู้ถือเหล่านี้ จะเกิดปรากฏการณ์ ‘ซัพพลายที่ชะงัก’ ส่งผลให้มี ‘อุปทานแฝง’ แห่ทะลักออกมาพร้อมกัน และหากไม่มีแรงซื้อพอจะรองรับ ราคาก็จะพังลงทันที ซึ่งอ้างอิงจากหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐานเรื่อง ‘อุปสงค์และอุปทาน’ ของอดัม สมิธ
ข้อมูลในตลาดก็ดูเหมือนจะสะท้อนคำพูดของชิฟ จากข้อมูลธุรกรรมล่าสุด พบว่ามีการเคลื่อนไหวจากกระเป๋าเงินขนาดใหญ่รายหนึ่งซึ่งลดยอดถือครองจาก 80,000 BTC เหลือเพียง 37,000 BTC หรือขายออกไปราว 43,000 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 5.5 แสนล้านบาท) สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่เพิ่มแรงกดดันให้กับตลาดอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ยังมีฝั่งผู้ซื้อที่แสดงความเคลื่อนไหวเชิงบวก เช่น กองทุน ETF อย่างแบล็คร็อก ($IBIT) ที่มีเงินทุนไหลเข้าสูงถึง 470 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.5 พันล้านบาท) ภายในวันเดียว นอกจากนี้ องค์กรอย่างไมโครสเตรทจีของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ยังมีท่าทีซื้อสะสม แม้แรงซื้อลดลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่ใช่สัญญาณของการถอนตัวโดยสิ้นเชิง
ในอีกด้านหนึ่ง มีการพูดถึงบทบาทของเงินทุนปริศนาจากจีนที่อาจเป็นเบื้องหลังแรงขายอย่างหนักในช่วงนี้ โดยบางคนเปรียบเทียบกับ ‘ทฤษฎีการขายของรัฐบาลเยอรมนี 2.0’ และตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มที่กำลังขายอยู่นี้อาจซื้อตุนใหม่ภายหลังโดยใช้เลเวอเรจเพื่อเล่นรอบ
สิ่งที่ทำให้คำเตือนของชิฟถูกมองจริงจังกว่าเดิม คือภาพรวมของตลาดที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจระยะสั้น ความชะลอของการยอมรับบิตคอยน์ทั่วโลก รวมถึงกลยุทธ์ของนักลงทุนสถาบันที่เริ่มเปลี่ยนท่าที ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ทิศทางราคาถูกบดบังด้วยความไม่แน่นอน
แม้ตลาดบิตคอยน์ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤตเต็มรูปแบบ แต่การที่คำพูดของปีเตอร์ ชิฟได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงนี้ ชี้ให้เห็นว่า *ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ในระดับเปราะบางสูงสุด* ซึ่งหากตลาดคริปโตต้องการกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง อาจต้องมีอะไรมากกว่าปัจจัยทางเทคนิค กล่าวคือ ต้องอาศัย *การฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระดับโครงสร้าง* อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0