Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ตลาดคริปโตเงียบเหงาหลังคริสต์มาส บิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่า 87,000 ดอลลาร์ ขาดแรงซื้อจากนักลงทุน

ตลาดคริปโตซบเซาหลังคริสต์มาส บิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่า 87,000 ดอลลาร์

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีดูเงียบเหงาหลังวันคริสต์มาส โดยราคาของบิตคอยน์(BTC) ที่เคยพุ่งทะลุ 89,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.28 ล้านบาท) ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 87,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.25 ล้านบาท) อีกครั้ง ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ยังคงไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.3 แสนบาท) ได้ มูลค่ารวมของตลาดคริปโตทั้งหมดลดลง 1.4% มาอยู่ที่ประมาณ 3.01 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,345 ล้านล้านบาท)

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา บิตคอยน์ปรับลดลงประมาณ 1% โดยแนวโน้มรายสัปดาห์ก็ยังคงติดลบที่ระดับใกล้เคียง ส่วนอีเธอเรียมลดลง 0.99% ภายในวันเดียว และ 1.7% ตลอดสัปดาห์ แสดงถึงความเคลื่อนไหวที่เงียบสงบในช่วงวันหยุด ท่ามกลางการขายทำกำไรของนักลงทุนและภาวะรอดูสถานการณ์

ในบรรดาอัล트คอยน์ชั้นนำ ดอจคอยน์(DOGE) ร่วงลงแรงที่สุดที่ 3.3% ส่วนตัวเด่นในกลุ่มที่สามารถต้านทานกระแสขายได้ ได้แก่ เอเทนา(ENA) และเวิลด์ลิเบอร์ตี้ไฟแนนเชียล(WLFI) ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 4.4%

บริษัทวิเคราะห์จากสิงคโปร์ แมทริกซ์พอร์ต(Matrixport) เปิดเผยว่า บิตคอยน์กำลังเผชิญแรงกดดันขาลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม โดยขณะนี้เลเวอเรจในตลาดเริ่มคลี่คลาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการปรับพอร์ตของนักลงทุนก่อนกำหนดอายุของออปชันบิตคอยน์ขนาดใหญ่ที่สุดที่กำลังจะมาถึง

"ขณะนี้ความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการปรับตัวลง และความหวังในการรีบาวด์ กำลังอยู่ในจุดที่สมดุล" แมทริกซ์พอร์ตระบุ พร้อมชี้ว่าดัชนีความกลัวและความโลภในตลาดคริปโตยังอยู่ในโซน ‘ความกลัวขั้นสุด’ สะท้อนถึงสภาวะจิตวิทยาการลงทุนที่อ่อนแรงมาก

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) สหรัฐมีการถอนเงินออกจากกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตมูลค่าประมาณ 175.3 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,527 ล้านบาท) ต่อเนื่องเป็นวันที่ห้า ขณะที่ ETF แบบสปอตของอีเธอเรียมก็สูญเสียเงินทุนออกไป 52.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 760 ล้านบาท) ส่งผลให้มูลค่ารวมของสินทรัพย์สุทธิลดลงเหลือ 17.8 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.56 ล้านล้านบาท) สะท้อนถึงท่าทีชะลอตัวของสถาบันท่ามกลางช่วงสิ้นปี

ข้อมูลจาก Coinglass เผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการชำระบัญชี (liquidation) ในตลาดอนุพันธ์ราว 259 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,734 ล้านบาท) แม้ในภาพรวมตัวเลขจะไม่สูงมาก แต่เห็นได้ชัดว่าผู้ที่ถือสถานะ Long เผชิญความสูญเสียมากที่สุด โดยยอดขาดทุนจากฝั่ง Long อยู่ที่ 152 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,193 ล้านบาท) ในจำนวนนี้ บิตคอยน์ถูกชำระบัญชี 117 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,688 ล้านบาท) ตามด้วยอีเธอเรียม 44 ล้านดอลลาร์ (ราว 635 ล้านบาท) และโซลานา(SOL) ที่ 17 ล้านดอลลาร์ (ราว 245 ล้านบาท)

ด้านปัจจัยมหภาค เมื่อวันที่ 25 ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น อูเอดะ คาซูโอะ กล่าวว่าสถานการณ์เงินเฟ้อของญี่ปุ่นกำลังเคลื่อนเข้าใกล้เป้าหมาย 2% และยังมีความเป็นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินทั่วโลกและถูกจับตามองโดยนักลงทุนคริปโต

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมพบกับโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ในวันที่ 28 ธันวาคม ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เพื่อหารือแนวทางยุติสงครามกับรัสเซีย เป็นอีกประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลต่อทิศทางการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป

*ความคิดเห็น: ในภาวะที่นักลงทุนขาดความมั่นใจและเลเวอเรจเริ่มคลายตัว การเคลื่อนไหวของราคาอาจผันผวน แต่นั่นก็เป็นโอกาสสำหรับผู้ที่ติดตามสภาพคล่อง, การเปลี่ยนแปลงของ ETF และข่าวสารมหภาคอย่างใกล้ชิด*

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1