คอยน์แชร์สชี้: ปี 2025 จุดเปลี่ยนสำคัญ 'คริปโต' จากราคาสู่การใช้งานจริง

บิตคอยน์(BTC) ทำสถิติราคาสูงสุดอีกครั้งในปี 2025 ขณะที่ตลาดคริปโตไม่ได้แค่เติบโตในเชิงราคา แต่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างที่เน้น ‘การใช้งานจริง’ มากยิ่งขึ้น ตามรายงานของบริษัทลงทุนด้านคริปโตชื่อดังอย่างคอยน์แชร์ส(CoinShares) ที่ชี้ว่า ปีนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เทคโนโลยีและการยอมรับในวงกว้างของสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

คอยน์แชร์สระบุว่า ตลาดคริปโตในปี 2025 เริ่มเข้าสู่ ‘โครงสร้างทางการเงินแบบถาวร’ หลังจากช่วงปี 2022–2023 ซึ่งตลาดซบเซาและมีความไม่แน่นอนสูง กลับพลิกกลับมาพร้อมกับความสนใจจากสถาบันและประชาชนทั่วไป แม้จะยังมีเหตุการณ์ผันผวนอย่างการถูกบังคับขาย (Liquidation) อยู่บ่อยครั้ง แต่บริษัทยืนยันว่า หากพิจารณาแค่เรื่อง ‘ราคา’ อาจมองข้าม ‘พัฒนาการของอุตสาหกรรม’ ที่แท้จริงไปได้

หนึ่งในแก่นสำคัญที่คอยน์แชร์สชี้คือ ระบบการเงินไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพราะราคาขึ้นลง แต่เปลี่ยนแปลงเมื่อมี ‘ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริงในวงกว้าง’ ซึ่งปี 2025 ถือเป็นช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะเมื่อโครงการบล็อกเชนจำนวนมากเริ่มปรับตัวจากแนวคิดทดแทนระบบเดิมไปสู่ ‘เสริมสร้างระบบเดิม’ เน้นประโยชน์และใช้งานจริงมากขึ้น

ตลาดเริ่มมองเห็นความสำคัญของโครงการที่แก้ไขข้อจำกัดเชิงโครงสร้างได้อย่างยั่งยืน แทนที่จะสนใจโครงการที่เป็นแค่กระแสช่วงสั้น ความเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มเข้าสู่ระยะ ‘เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ’

คอยน์แชร์สยกตัวอย่าง เช่น เชนลิงก์(LINK) ที่เพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างบล็อกเชนและผู้ให้บริการข้อมูล, โครงการคาดการณ์ตลาดอย่างโพลิมาร์เก็ต (Polymarket) และคาล์ซี(Calci) ที่เริ่มใช้งานจริงภายใต้มาตรการกำกับดูแล รวมถึงการที่ ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากนักลงทุนทั่วไปมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ได้อิงจากกระแส แต่จาก ‘ความคุ้นเคยที่ซึมลึก’

ขณะที่หลายฝ่ายยังจับตาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาค อย่างการเพิ่มสภาพคล่องจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในปี 2026 คอยน์แชร์สกลับมองว่า ‘การยอมรับ’ (Adoption) ในการใช้งานจริง คือปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนตลาดในปีหน้า โดยเฉพาะการที่แอปการเงินเริ่มท้าชนบัญชีออมทรัพย์ในธนาคาร และการที่ทั้งฟินเทคและธนาคารใหญ่เริ่มหันมาให้บริการผ่านบนสเตเบิลคอยน์อย่างจริงจัง ทั้งด้านการโอน การเก็บรักษาทรัพย์สิน และการชำระเงิน

คอยน์แชร์สยังระบุด้วยว่า ผู้ชนะในตลาดปีหน้าจะไม่ได้ถูกตัดสินด้วยเรื่อง ‘เล่าเรื่องเก่ง’ หรือความนิยม แต่ด้วย ‘บทบาททางเศรษฐกิจที่จับต้องได้’ เช่น บิตคอยน์กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ประเภทไม่ขึ้นกับรัฐ (Non-sovereign Asset) ที่มีบทบาทระดับโลก, สเตเบิลคอยน์ที่กลายเป็นตัวกลางการชำระเงินในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล และโทเคนทางการเงินที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทดลอง แต่เข้าสู่ระบบการออกจำหน่ายจริงมากขึ้น

โครงการดีไฟ (DeFi) ก็เริ่มปรับโครงสร้างให้ใกล้เคียงระบบการเงินดั้งเดิม และได้รับการมองใหม่ว่าเป็น ‘บริการทางการเงินที่ใช้เทคโนโลยีต่างกัน’ แทนที่จะเป็น ‘ระบบขนาน’ อย่างที่เคยถูกมองในอดีต

อีกหนึ่งความคืบหน้าสำคัญในปี 2025 คือการที่หลายประเทศเริ่มปรับกรอบ ‘กฎหมายและกำกับดูแล’ ให้ชัดเจนขึ้น สหรัฐมีความคืบหน้าในการร่างกฎหมายสำหรับสเตเบิลคอยน์และการออกสินทรัพย์ดิจิทัลแบบโทเคน ส่วนยุโรปก็เริ่มให้ความสำคัญกับ ‘การกำกับดูแลที่เป็นไปได้จริง’ แทนการออกกฎห้ามแบบกว้าง ๆ เพื่อดึงดูดเงินทุนระยะยาวเข้าอุตสาหกรรม

แม้ตลาดบล็อกเชนยังเผชิญกับความผิดพลาดหรือโปรเจกต์ที่ล้มเหลว แต่คอยน์แชร์สมั่นใจว่า ‘แนวโน้มหลักของอุตสาหกรรมเริ่มเด่นชัดแล้ว’ โดยมีแกนอยู่ที่ ‘การใช้งานจริง’, ‘กระแสเงินสด’ และ ‘การบูรณาการเข้ากับระบบการเงิน’ ของโลก

หากปี 2025 เป็นปีแห่ง ‘การหวนคืนอย่างสง่างาม’ ของตลาดคริปโต ปี 2026 ก็จะเป็นปีแห่ง ‘การลงหลักปักฐาน’ ของสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบเศรษฐกิจจริงอย่างแท้จริง