เอลซัลวาดอร์มีกำไรจากการถือครองบิตคอยน์(BTC) เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมูลค่าพอร์ตล่าสุดแตะ 64.4 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9,144 ล้านบาท พร้อมทำกำไรที่ยังไม่รับรู้กว่า 35.7 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5,069 ล้านบาท
แม้ว่ารัฐบาลเอลซัลวาดอร์จะมีพันธกรณีกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) วงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ ที่จำกัดการมีส่วนร่วมของภาครัฐในตลาดคริปโต แต่สำนักงานบิตคอยน์ของประเทศยังคงเดินหน้าซื้อ ‘วันละ 1 บิตคอยน์’ ต่อเนื่อง ซึ่งกำลังเห็นผลอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่บิตคอยน์ใกล้สร้าง ‘จุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์’
ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล(Nayib Bukele) เปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า เอลซัลวาดอร์เริ่มต้นลงทุนในบิตคอยน์ด้วยเงินทุน 287.1 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมีมูลค่ารวมทะลุ 644 ล้านดอลลาร์ สะท้อนผลตอบแทนถึง 124%
จากข้อมูลของเว็บไซต์ Bitcoin Treasuries ระบุว่า เอลซัลวาดอร์ถือครองบิตคอยน์รวม 6,181 เหรียญ เป็นอันดับ 6 ของโลกในกลุ่มประเทศที่ถือครองคริปโตฯ มากที่สุด นำโดยสหรัฐฯ ตามด้วยจีน สหราชอาณาจักร ยูเครน และภูฏาน
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เอลซัลวาดอร์ได้ทำข้อตกลงสนับสนุนทางการเงินรวมมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์กับ IMF ซึ่งมีเงื่อนไขจำกัดบทบาทของรัฐบาลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ส่งผลให้ในเดือนมกราคมปีนี้ รัฐสภาได้ปรับแก้กฎหมาย เปลี่ยนนโยบายที่เคยบังคับให้นิติบุคคลรับบิตคอยน์ เป็นเพียงตัวเลือก
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีบูเคเลยืนยันว่าจะยังเดินหน้าซื้อบิตคอยน์ต่อไป แม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติและภาวะโดดเดี่ยวจากชุมชนคริปโตก็ตาม *“ความคิดเห็น: ความมุ่งมั่นของเอลซัลวาดอร์กำลังท้าทายทั้งโลก ในช่วงเวลาที่ประเทศอื่นยังไม่แน่ใจว่าจะยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไม่”*
ความคิดเห็น 0