บิตคอยน์(BTC)และอีเธอเรียม(ETH)กำลังได้รับแรงหนุนจากกระแสการถอนเหรียญออกจากแพลตฟอร์มเทรดหลักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจากรายงาน เผยว่าเมื่อไม่นานมานี้มีการถอนบิตคอยน์จำนวน 3,090 BTC หรือราว 4,618 พันล้านวอน ออกจากไบแนนซ์ ขณะเดียวกันยังมีอีเธอเรียมกว่า 76,000 ETH ถูกถอนออกจากไบแนนซ์ และ 170,000 ETH ออกจากคราเคนเช่นกัน
‘การถอนออกจากกระดานเทรด’ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนระยะยาว และเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อภาวะตลาดขาขึ้น ยิ่งจำนวนเหรียญในกระดานน้อยลง ยิ่งส่งผลให้ ‘สภาพคล่องลดน้อยลง’ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเทขายกะทันหัน และหาก ‘อุปสงค์ยังมีต่อเนื่อง’ ก็มีโอกาสราคาขยับขึ้นตามธรรมชาติ
ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชนชื่อดังอย่าง CryptoQuant ยังชี้ว่า กระแสการถอนเหรียญครั้งนี้อาจเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์สำคัญในอุตสาหกรรม เช่น การที่เซอร์เคิล(Circle) เตรียมยื่นเสนอขายหุ้น IPO รวมถึงข่าวลือการซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอย่างคอยน์เบส และริปเปิล(XRP)
อีกหนึ่งสัญญาณเชิงบวกคือค่า ‘MVRV’ ของบิตคอยน์ ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างราคาตลาดกับมูลค่าที่แท้จริง โดยล่าสุดค่าดัชนีนี้อยู่ที่ระดับ 2.33 ซึ่งยังห่างจากระดับกังวลที่ 2.75 ที่เคยเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ในอดีต จึงมี *ความคิดเห็น* ว่า บิตคอยน์ยังไม่เข้าสู่ช่วงฟองสบู่หรือพร้อมให้มีแรงขายจำนวนมาก
แม้ช่วงหน้าร้อนจะเคยเป็นช่วงเวลาของ ‘ภาวะซบเซา’ สำหรับตลาดคริปโต โดยเฉพาะไตรมาส 3 อย่างปี 2022 ที่ประสบปัญหา แต่สถานการณ์ในปี 2025 อาจแตกต่างออกไป ตามข้อมูลจาก Kaiko ที่ระบุว่าไตรมาสนี้จะเต็มไปด้วยปัจจัยกระตุ้น ทั้งการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ, เส้นตายประกาศภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ในวันที่ 9 กรกฎาคม และความพยายามผ่านร่างกฎหมายคริปโตในสภาก่อนช่วงปิดสมัยประชุมเดือนสิงหาคม
อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่น่าสนใจคือข้อมูลในตลาดออปชัน พบว่ามี ‘การวางเดิมพัน’ กันที่ราคาบิตคอยน์ระดับ 110,000 และ 120,000 ดอลลาร์ สำหรับสัญญาที่จะหมดอายุในวันที่ 27 มิถุนายน ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ไม่ได้คาดหวังเพียงความเคลื่อนไหวที่จำกัด แต่กลับเตรียมรับมือกับการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความคิดเห็น 0