โช วอลเทอร์ส(Shaw Walters) ผู้ก่อตั้งเอลิซา แล็บส์(Eliza Labs) ถูกแฮ็กบัญชี X (เดิมคือ Twitter) ส่งผลให้มีลิงก์สแกมถูกโพสต์บนบัญชีของเขา วอลเทอร์สระบุว่าเขาไม่แน่ใจว่าการโจมตีเกิดขึ้นได้อย่างไร แม้จะใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอนและรหัสผ่านที่แข็งแกร่งแล้วก็ตาม “ผมตื่นขึ้นมาแล้วพบข้อความจำนวนมากแจ้งว่าบัญชีของผมถูกแฮ็ก” วอลเทอร์สกล่าว พร้อมเสริมว่าภรรยาของเขาเป็นคนแรกที่ล็อกอินเข้าไปเพื่อจัดการและลบโพสต์ที่เกี่ยวข้องออก
เอลิซา แล็บส์เป็นบริษัทที่พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI แบบโอเพ่นซอร์สชื่อ ‘เอลิซา’ และมีโทเคนของตัวเองคือ ai16z บริษัทได้ออกมาเตือนผู้ใช้ในทันทีว่าไม่ให้คลิกลิงก์สแกมที่ถูกโพสต์จากบัญชีของวอลเทอร์ส นอกจากนี้ วอลเทอร์สยังเน้นว่าการแฮ็กครั้งนี้เป็นการโจมตีที่มีการวางแผนไว้อย่างละเอียด พร้อมกล่าวขอโทษต่อผู้ใช้ที่อาจได้รับผลกระทบ
ในอีกด้านหนึ่ง วอลด์(World) ผู้ให้บริการเครือข่ายด้านการเงินและการยืนยันตัวตน ได้เปิดตัวการยืนยันตัวตนด้วย Orb ในฟิลิปปินส์ โดยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ บริษัทประกาศว่าฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการยอมรับเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การให้บริการ World ID จะเริ่มต้นที่เขตบูลาแคน ชานกรุงมะนิลา ก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ และย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ บริการนี้ได้เปิดตัวในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียแล้วเช่นกัน
ด้านโบย่า อินเตอร์แอคทีฟ(Boyaa Interactive) บริษัทเกมสัญชาติจีน คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของปี 2024 จะเพิ่มขึ้นระหว่าง 640% ถึง 680% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายงานของบริษัทระบุว่า การเติบโตนี้เป็นผลมาจากมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นและกลยุทธ์การปรับปรุงการดำเนินงานออนไลน์ ณ เดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว โบย่าถือครองบิตคอยน์(BTC) จำนวน 3,183 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 306 ล้านดอลลาร์ หรือราว 44,060 ล้านบาท
ขณะที่ไบรอัน อาร์มสตรอง(Brian Armstrong) ซีอีโอของคอยน์เบส(Coinbase) ประกาศในการรายงานผลประกอบการว่า บริษัทตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งตลาดของ USD Coin(USDC) และจะเดินหน้าท้าทายเตเทอร์(USDT) อย่างจริงจัง โดยปัจจุบัน เตเทอร์ครองส่วนแบ่งตลาดที่ 61% ขณะที่ USDC อยู่ที่ประมาณ 24% อาร์มสตรองยังเสริมว่า “ภายใน 10 ปีจากนี้ 10% ของ GDP โลกจะขับเคลื่อนด้วยสกุลเงินดิจิทัล”
ความคิดเห็น 0