Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

เชนลิงก์(LINK) เคลื่อนไหวกรอบแคบ วาฬสะสมต่อเนื่องแต่ยังไร้แรงหนุนจากรายย่อย

เชนลิงก์(LINK) เคลื่อนไหวกรอบแคบ วาฬสะสมต่อเนื่องแต่ยังไร้แรงหนุนจากรายย่อย / Tokenpost

ราคา *เชนลิงก์(LINK)* ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 12–15 ดอลลาร์ (ประมาณ 16,680–20,870 บาท) ท่ามกลางความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการจากภาค *นักลงทุนรายย่อย* ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ตลาดกำลังรอ "จุดเปลี่ยนสำคัญ" ที่จะสามารถกระตุ้นแนวโน้มราคาให้กลับมาเคลื่อนไหวอย่างมีทิศทางได้อีกครั้ง

ตามรายงานจากเครือข่ายข้อมูลบนบล็อกเชนพบว่า ปัจจุบันมี *เชนลิงก์* ประมาณ 100,000 LINK ถูกถอนออกจากแพลตฟอร์มซื้อขายทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง แนวโน้มดังกล่าวชี้ให้เห็นว่านักลงทุนระดับ *วาฬ* กำลังสะสมเหรียญ โดยไม่มีผลกระทบรุนแรงต่อราคาตลาด อย่างไรก็ตาม ปริมาณกิจกรรมโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อมีกรณีที่นักลงทุนรายย่อยนำเหรียญถึง 5 ล้าน LINK ไปฝากไว้ยังแพลตฟอร์มเป็นกรณีครั้งเดียว หลังจากนั้นจำนวนผู้ใช้งานรายวันจึงนิ่งสนิทอยู่ที่ราว 28,000–32,000 บัญชี ขณะที่จำนวนการทำธุรกรรมต่อวันอยู่ที่ประมาณ 9,000 รายการ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก

ข้อมูลยังเผยว่าช่วงที่มีการถอนเหรียญออกจากตลาดมากที่สุดเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว โดยในบางวันมีธุรกรรมการถอนสูงถึง 3,000 รายการ ปัจจุบันอัตราการถอนยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีมา ยอดคงเหลือของ LINK บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ลดลงเกือบ 40% นักวิเคราะห์ประเมินว่า กลยุทธ์เลเวอเรจในตลาดยังดำเนินอยู่ในระดับ ‘เป็นกลาง’ สะท้อนถึงการสะสมแบบมีแบบแผนของนักลงทุนจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถดันราคาระดับ 15 ดอลลาร์ขึ้นไปได้

ด้านบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล *คริปโตควอนต์(CryptoQuant)* ชี้ว่า หาก *เชนลิงก์* จะสามารถ ‘หลุดกรอบ’ ราคาปัจจุบันไปได้ จำเป็นต้องมี "ผู้เล่นใหม่" เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทั้งในแง่นักลงทุนขนาดใหญ่เลิกถอนทุนออก และการกลับมาของภาค *รายย่อย* ซึ่งทำให้มีแนวโน้มกลับตัวของราคาได้อีกครั้ง สถานการณ์นี้ได้รับการเปรียบเทียบกับช่วงที่ *บิตคอยน์(BTC)* เคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ตลอดปี 2023 ก่อนเร่งตัวขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงต้นปี 2024

แม้ราคาจะทรงตัว แต่โครงการ *เชนลิงก์* ยังคงเดินหน้าขยายความร่วมมือและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือนที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับ *มาสเตอร์การ์ด* เดินหน้าโปรเจ็กต์ใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้บัตรกว่า 3 พันล้านราย สามารถใช้เงินตราแบบดั้งเดิมเพื่อซื้อสินทรัพย์บนบล็อกเชน จุดเด่นคือการนำเครือข่ายการชำระเงินของมาสเตอร์การ์ดมาผนวกรวมกับโครงสร้างพื้นฐานของเชนลิงก์ โดยมีสถาบันสำคัญ เช่น *Zerohash*, *Shift4*, *Swapper Finance* และ *XSwap* ร่วมให้การสนับสนุนด้านสภาพคล่องและการปฏิบัติตามกฎหมาย

นอกจากนี้ *เชนลิงก์* ยังเข้าร่วมโครงการนำร่อง e-HKD+ ของ *สำนักงานการเงินฮ่องกง(HKMA)* พร้อมจับมือกับ *วีซ่า* เพื่อทดสอบการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบใช้เหรียญโทเคน โดยในการทดลอง *ธนาคาร ANZ* จากออสเตรเลียได้ออก A$DC และแปลงเป็น e-HKD สำหรับลงทุนในกองทุนตลาดเงินแบบโทเคน โดยใช้บริการ *CCIP* ของเชนลิงก์ เพื่อโอนระหว่างบล็อกเชนส่วนตัวของ ANZ และ Ethereum Testnet สาธารณะ พร้อมระบบ *VTAP* จากวีซ่าที่รับผิดชอบวงจรชีวิตของโทเคน ทำให้สามารถชำระเงินได้ภายในไม่กี่วินาที แม้ในวันหยุด

แม้จะมีกิจกรรมจากภาคสถาบันและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่กว้างขวาง ราคาของ *LINK* กลับยังไม่ตอบรับต่อปัจจัยบวกเหล่านี้อย่างชัดเจน *ความคิดเห็น* จากหลายฝ่ายจึงเห็นพ้องว่า หาก *เชนลิงก์* จะมีราคาฟื้นตัวได้จริง แรงซื้อจาก *วาฬ* เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีการกลับมาของภาค *รายย่อย* เพื่อเป็น ‘ตัวเร่ง’ สำคัญในการจุดประกายแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1