บิตคอยน์(BTC) กลับมาเป็นที่สนใจในกลุ่มนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่มีการเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2012 ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ได้เพิ่มขึ้นมากถึง *590,000%* โดยการพุ่งขึ้นนี้ถูกวิเคราะห์ว่าเกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ การเข้าสู่ตลาดหลักอย่างต่อเนื่อง และการรับรู้ของคนทั่วไปผ่านทางยูทูบ
เมื่อวันที่ 24 นักข่าวสายคริปโตชื่อ พีท ริซโซ(Pete Rizzo) เปิดเผยผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียว่า ในปี 2012 ราคาบิตคอยน์เคยอยู่ที่ประมาณ 20 ดอลลาร์ หรือราว 27,800 วอนเท่านั้น โดยผู้ที่ลงทุนในตอนนั้นจะได้ผลตอบแทนสูงถึง *590,000%* พร้อมทั้งแนบคลิปวิดีโอของยูทูบเบอร์ มอลลี เทมเพิลตัน(Molly Templeton) ซึ่งเป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่แนะนำแนวคิดของบิตคอยน์ต่อสาธารณชน
ในวิดีโอดังกล่าว มอลลีบรรยายว่า "*เงินไม่ใช่แค่ธนบัตร, ทองคำ หรือข้อมูล แต่มันคือ ‘ความเชื่อมั่น’*" และเธอยังตั้งคำถามว่า "*ท้ายที่สุดแล้ว เราเชื่อใคร?*" แม้ในขณะนั้นบิตคอยน์จะยังไม่ได้รับความนิยมจากสื่อกระแสหลักหรือสถาบันการเงิน แต่บางคนกลับมองเห็นโอกาสจากมัน บิตคอยน์จึงสะสมมูลค่ามาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดราคาพุ่งทะลุถึง *123,000 ดอลลาร์* หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท
ริซโซยังชี้อีกว่า ปัจจัยหลักที่หนุนราคาบิตคอยน์ในปัจจุบัน คือ *การอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ และภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้น* อีกทั้งการเปิดให้บริการ *กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต* ยังส่งผลให้มีเงินไหลเข้าใหม่เกือบ *1.18 พันล้านดอลลาร์* หรือประมาณ 1.64 ล้านล้านวอนภายในเวลาเพียงวันเดียว ซึ่งตอกย้ำสถานะของ BTC ในฐานะเครื่องมือการลงทุน
ในด้านอุปทาน บิตคอยน์ยังคงมี ‘ความหายาก’ เป็นจุดแข็ง ด้วยจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ และขณะนี้มีการขุดไปแล้วมากกว่า *19 ล้านเหรียญ* นอกจากนี้ ยังมีโครงสร้าง *Halving* หรือการลดรางวัลในการขุดลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี ซึ่งสร้างแรงกดดันด้านอุปทาน และสนับสนุนราคาต่อเนื่อง โดยล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายนปีที่ผ่านมา และครั้งถัดไปจะมีขึ้นในปี 2028
ขณะเดียวกัน โรเบิร์ต คิโยซากิ(Robert Kiyosaki) นักเขียนชื่อดังจากหนังสือ *พ่อรวยสอนลูก* ก็แสดงความมั่นใจในแนวโน้มราคาบิตคอยน์ผ่านทวิตล่าสุด โดยระบุว่า ปีนี้ราคาน่าจะไปถึง *200,000 ดอลลาร์* หรือราว 2.78 ล้านบาท และในระยะยาวมีโอกาสแตะ *1 ล้านดอลลาร์* หรือประมาณ 13.9 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่าจะซื้อเพิ่มอีก
ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยี ปรัชญา และทางเลือกในระบบการเงินโลก การปรับสถานะจากทรัพย์สินโต้เถียงไปสู่ *“สินทรัพย์แห่งความเชื่อมั่น”* ไม่ใช่แค่เรื่องรำลึกถึงอดีต แต่เป็นตัวเลือกของปัจจุบันสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นอนาคตจากบทเรียนในอดีต
ความคิดเห็น 0