ซิตี้กรุ๊ป(Citigroup) กำลังพิจารณาออก *สเตเบิลคอยน์* อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการหลอมรวมระหว่าง *การเงินแบบดั้งเดิม* และ *สินทรัพย์ดิจิทัล* กำลังเข้าสู่ช่วงเร่งตัว เจน เฟรเซอร์(Jane Fraser) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการออกสเตเบิลคอยน์ของตัวเอง พร้อมระบุว่า *รัฐบาลทรัมป์ที่มีนโยบายเป็นมิตรต่อคริปโต* คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการนี้สามารถเดินหน้าได้
เฟรเซอร์กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากสเตเบิลคอยน์แล้ว ซิตี้ยังเตรียมให้บริการ *เงินฝากแบบโทเคนและบริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล* ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธนาคารกำลังก้าวข้ามระดับ ‘โครงการนำร่อง’ และมุ่งเป้าสู่การ *สร้างโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบการเงินบนบล็อกเชน*
‘Genius Act’ ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่ *ประธานาธิบดีทรัมป์* เพิ่งลงนาม ได้กำหนดเงื่อนไขการออกสเตเบิลคอยน์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังเปิดทางให้ธนาคารสามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น พร้อมกันนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ยังได้ยกเลิกกฎบางส่วนที่เคยบังคับให้ต้องขออนุญาตล่วงหน้าก่อนดำเนินการเกี่ยวกับคริปโต ซึ่งช่วยขจัดอุปสรรคสำคัญที่เคยปิดกั้นการทดลองของธนาคารในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล
เฟรเซอร์ย้ำว่า เธอ *ยินดีที่ฝ่ายบริหารของรัฐสนับสนุนให้ธนาคารเข้ามามีบทบาทในพื้นที่ดิจิทัลนี้อย่างอิสระ* โดยการประกาศเรื่องนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนท่าทีของซิตี้เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับอุตสาหกรรมอีกด้วย *เจพีมอร์แกน, แบงก์ออฟอเมริกา และเวลส์ฟาร์โก* ต่างก็กำลังพัฒนาสเตเบิลคอยน์ภายในองค์กรเช่นกัน ขณะเดียวกันในยุโรป ธนาคารฝรั่งเศสอย่าง *โซซิเอเต้ เจเนราล* ก็ได้เปิดตัวสเตเบิลคอยน์ ‘USD CoinVertible’ ที่ทำงานอยู่บนบล็อกเชนของ *อีเธอเรียม(ETH)* และ *โซลานา(SOL)*
ตลาด *สเตเบิลคอยน์ระดับโลก* กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าการหมุนเวียนทะลุ 11,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 15.3 ล้านล้านวอน) ขณะที่ *สเตเบิลคอยน์รูปแบบให้ผลตอบแทน* คิดเป็น 4.5% ของตลาดทั้งหมด นอกจากนี้ จำนวน *กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้งานสเตเบิลคอยน์ทั่วโลก* ยังทะลุ 109 ล้านแอดเดรสแล้ว สะท้อนถึงความต้องการระบบชำระเงินผ่านบล็อกเชนที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้านบริษัท *เซอร์เคิล(Circle)* ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ออกสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ของสหรัฐ ก็เพิ่งระดมทุนจำนวนมากผ่านการจดทะเบียนในตลาด *แนสแด็ก* เมื่อต้นปี สะท้อนว่า *ทั้งนักลงทุนสถาบันและรายบุคคลต่างจับตาโอกาสในตลาดนี้*
เมื่อซิตี้กรุ๊ปเริ่มต้นเดินหน้าสู่ตลาดสเตเบิลคอยน์จริงจังมากขึ้น มีแนวโน้มสูงว่า *สินทรัพย์ดิจิทัลจะกลายเป็นหนึ่งในหัวใจของธุรกิจธนาคารในอนาคตอันใกล้* ความเคลื่อนไหวนี้อาจนับเป็นจุดเริ่มต้นของรูปแบบ *ธนาคารยุคใหม่* ที่ผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับระบบการเงินเดิมได้อย่างเป็นรูปธรรม
ความคิดเห็น 0