ราคาของริปเปิล(XRP) พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมาย 'จีเนียสแอกต์' (Genius Act) พร้อมอีก 2 ฉบับ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความชัดเจนด้านกฎระเบียบในอุตสาหกรรมคริปโต โดยขณะนี้เหลือเพียงการลงนามอนุมัติอย่างเป็นทางการจากประธานาธิบดีทรัมป์ ตลาดคริปโตแสดงปฏิกิริยาเชิงบวกอย่างชัดเจน โดยคาดหวังถึงระบบนิเวศที่มีกรอบกฎเกณฑ์ที่แน่นอนมากยิ่งขึ้น
ริปเปิล(XRP) ทะยานจากจุดสูงสุดเดิมที่เคยแตะไว้ที่ 3.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,726 บาท) ขึ้นไปแตะระดับ 3.65 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,074 บาท) หรือคิดเป็นการปรับตัวขึ้นกว่า 20% ภายในวันเดียว ซึ่งถือเป็น ‘สัญญาณกลับตัว’ ที่สำคัญหลังจากแนวโน้มขาลงระยะยาว ด้านนักวิเคราะห์ทางเทคนิคประเมินว่า ระดับราคาเป้าหมายถัดไปของ XRP คือ 3.80 ดอลลาร์, 4.33 ดอลลาร์ และ 4.72 ดอลลาร์ ตามลำดับ
ปัจจัยผลักดันในครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงเรื่อง ‘กรอบกฎหมาย’ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างริปเปิลและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ที่มีแนวโน้มคลี่คลายลง อีกทั้งยังมีข่าวลือเรื่องความเป็นไปได้ที่กองทุน ETF สำหรับ XRP ในรูปแบบสินทรัพย์จริงจะได้รับ ‘การอนุมัติภายในปีนี้’ โดยมีโอกาสมากกว่า 85% *ความคิดเห็น: ยิ่งเพิ่มแรงซื้อล่วงหน้าให้กับนักลงทุนสถาบัน* นอกจากนี้ การยอมรับเทคโนโลยีของริปเปิลในภาคธุรกิจ และกำลังซื้อจากนักลงทุนทั่วไปที่เกิดจากความกลัวตกรถ (FOMO) ต่างช่วยขับเคลื่อนให้ภาพรวมของตลาดอัลท์คอยน์กลับเข้าสู่ ‘วัฏจักรตลาดกระทิง’ อย่างชัดเจน
อีกหนึ่งแรงหนุนที่ส่งผลต่อราคาคือ *สภาพคล่องในตลาดที่ไหลกลับเข้ามา* โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตมากถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 695 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้บิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะระดับ 123,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,097,000 บาท) และอีเธอเรียม(ETH) ขึ้นมาอยู่ที่ 3,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 472,000 บาท) ซึ่ง XRP เองก็ปรับตัวขึ้นตามอย่างไม่แปลกใจ
นักวิเคราะห์เชื่อว่า แม้ XRP อาจเผชิญการปรับฐานในระยะสั้น แต่หากยังสามารถยืนเหนือแนวรับที่ 2.90–3.00 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,035–4,170 บาท) ได้ ก็มีโอกาสทะลุระดับ ‘5 ดอลลาร์’ (ประมาณ 6,950 บาท) ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครั้งนี้เป็น ‘การไหลเข้าของเงินทุนสถาบัน’ ไม่ใช่เพียงการเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อยเท่านั้น *ความคิดเห็น: ฟันธงได้ว่าโครงสร้างตลาดกำลังเปลี่ยนแปลง*
ขณะเดียวกัน ร่างกฎหมายจีเนียสแอกต์ ซึ่งอยู่ระหว่างรอ ‘ลายเซ็นจากประธานาธิบดีทรัมป์’ มีเป้าหมายเพื่อวางกรอบกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการกำหนดนิยามที่แน่นอนระหว่าง "หลักทรัพย์" และ "สินค้าโภคภัณฑ์" จึงน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันให้คริปโตเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการได้เร็วขึ้น
โดยสรุป การพุ่งขึ้นของ XRP ครั้งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวของ ‘โครงสร้างตลาด’ ซึ่งได้รับแรงส่งมาจากทั้งนโยบาย, กฎหมาย และเงินทุนสถาบันอย่างรอบด้าน มากกว่าเป็นเพียงความผันผวนของราคาชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
ความคิดเห็น 0