อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลง 3.5% สะท้อนแรงกดดันจากตลาด
อีเธอเรียม(ETH) เผชิญกับแรงกดดันขายอย่างหนัก ส่งผลให้ราคาร่วงลง 3.5% ซึ่งกระตุ้นความกังวลในหมู่นักลงทุน นักวิเคราะห์เตือนว่าหาก ETH ไม่สามารถรักษาระดับแนวรับหลักไว้ได้ ราคามีโอกาสปรับฐานลงไปอีก
ETH ถูกกดดันอย่างต่อเนื่องหลังจากไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2,750 ดอลลาร์ได้ ส่งผลให้ร่วงลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 2,620 ดอลลาร์ โดยการปรับตัวลงครั้งนี้มาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นกว่า 10% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากมุมมองทางเทคนิค ETH ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 2,565–2,800 ดอลลาร์ แต่เมื่อราคาลงมาใกล้โซนล่างของกรอบนี้ อาจเพิ่มความผันผวนของตลาด
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หาก ETH ทะลุแนวรับ 2,560 ดอลลาร์ลงมา อาจมีแรงขายเพิ่มขึ้น กดดันให้ราคาลดลงไปแตะระดับ 2,120 ดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับการหดตัวอีก 15% อย่างไรก็ตาม หากสามารถป้องกันแนวรับนี้ไว้ได้ ETH อาจเข้าสู่ช่วงไซด์เวย์ระยะสั้น อย่างไรก็ดี ราคายังซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA 200 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าสentiment ของตลาดยังคงอยู่ในฝั่งขาลง
แม้ว่าภาพรวมตลาดจะดูเป็นขาลง แต่ข้อมูลออนเชนเผยว่ามีการไหลออกของ ETH มูลค่ากว่า 68 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 2,500 ล้านบาท) จากแพลตฟอร์มเทรด ทำให้นักลงทุนบางส่วนมองว่าสิ่งนี้อาจหมายถึงการสะสมสินทรัพย์เพื่อการถือครองระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระยะสั้นยังคงมีแนวโน้มมองลงอยู่
ด้านข้อมูลฟิวเจอร์ส พบว่ามีสถานะขายที่ระดับ 2,650 ดอลลาร์ รวมกว่า 121 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 4,400 ล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าฝั่งซื้อที่อยู่บริเวณ 2,605 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 90 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 3,300 ล้านบาท) สิ่งนี้บ่งชี้ว่ากลุ่มนักเทรดกำลังเดิมพันกับทิศทางขาลงมากกว่าขาขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองต่อไปคือการทดสอบแนวรับ 2,560 ดอลลาร์ หากไม่สามารถต้านทานแรงขายได้ ETH อาจเผชิญกับการปรับฐานที่รุนแรงขึ้น แต่หากราคาสามารถฟื้นตัวจากจุดนี้ได้ อาจช่วยให้ตลาดกลับเข้าสู่ช่วงพักฐาน อย่างไรก็ตาม การกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน อาจต้องรอให้ ETH พุ่งทะลุ 2,800 ดอลลาร์ให้ได้เสียก่อน
ความคิดเห็น 0