ตลาดคริปโต โดยเฉพาะในกลุ่ม *สเตเบิลคอยน์* กำลังแสดงปฏิกิริยาอย่างชัดเจนต่อการผ่านกฎหมาย *GENIUS* ในสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์เพิ่มขึ้นทะลุ 264,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 366.9 ล้านล้านบาท) พร้อมกับเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าราว 4,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 55.6 พันล้านบาท) ส่งผลให้ทั้งนักลงทุนรายใหม่และบริษัทเดิมให้ความสนใจในตลาดนี้เพิ่มมากขึ้น
เหตุผลหลักที่ทำให้ตลาดตอบสนองในทางบวก คือกฎหมาย *GENIUS* ถือเป็นกรอบกำกับดูแลฉบับแรกในระดับรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ที่มุ่งควบคุม *สเตเบิลคอยน์* โดยเฉพาะ ซึ่งข้อกฎหมายใหม่นี้ได้เพิ่ม ‘ความชัดเจนทางกฎหมาย’ ให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะสถาบันการเงินดั้งเดิม เช่น ธนาคารและบริษัทบริหารสินทรัพย์ ที่ก่อนหน้านี้ต้องเผชิญความไม่แน่นอนจากท่าทีของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC)
เมื่อกรอบกฎหมายชัดเจน *เงินทุนย่อมตามมา* และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในตลาด สถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มขยับตัว ทั้งการประกาศแผนเข้าสู่ธุรกิจสเตเบิลคอยน์ หรือการจดสิทธิบัตรในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันธุรกิจใหม่ๆ ก็เริ่มทยอยเข้าสู่สนามแข่งขัน หนุนให้การแข่งขันในกลุ่มผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์ทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้น
ในฝั่ง *ความเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญ มีกระแสวิเคราะห์ว่า แนวทางผ่อนคลายด้านกฎระเบียบของรัฐบาล *ทรัมป์* ก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่เอื้อให้เกิดการเร่งรัดออกกฎหมาย GENIUS โดยเฉพาะในมิติที่พยายามแบ่งบทบาทระหว่าง SEC กับหน่วยงานกำกับอื่นๆ อย่างชัดเจน จึงช่วยลดความไม่แน่นอน และส่งเสริมให้โครงการระยะยาวเดินหน้าได้โดยมีความมั่นใจมากขึ้น
การบังคับใช้กฎหมาย *GENIUS* จึงไม่ใช่เพียงการปรับปรุงกฎระเบียบทางการเงินเท่านั้น แต่ยังอาจถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่สหรัฐฯ หวังใช้เป็นเครื่องมือในการยึด ‘บทบาทผู้นำ’ ในตลาด *สเตเบิลคอยน์* โลกกลับคืนมาอีกครั้ง จุดสนใจในตอนนี้จึงอยู่ที่ว่า ‘บริษัทใดจะคว้าจังหวะนี้ได้ก่อน และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในวิถีเศรษฐกิจดิจิทัลครั้งต่อไป’
ความคิดเห็น 0