ราคา *บิตคอยน์(BTC)* ร่วงลงมากกว่า 4,000 ดอลลาร์ภายในวันเดียว แตะระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ โดยสาเหตุหลักมาจากการเทขายครั้งใหญ่ของบริษัท *แกแล็กซี ดิจิทัล* ที่นำโดย *ไมค์ โนโวกราตซ์(Mike Novogratz)* ซึ่งจำหน่าย BTC มูลค่ารวมกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 54,735 ล้านบาท)
การขายที่มีนัยสำคัญดังกล่าวได้ฉีกกรอบราคาบริเวณ 117,000-120,000 ดอลลาร์ (ราว 4.76-4.88 ล้านบาท) ที่คอยพยุงราคามาหลายวัน ส่งผลให้เมื่อวันที่ 11 ราคาของ *BTC* ร่วงลงแตะ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.67 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม
ตามข้อมูลจาก Lookonchain บริษัทแกแล็กซี ดิจิทัลได้โอนบิตคอยน์จำนวน 10,000 BTC (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.18 พันล้านดอลลาร์ หรือ 42,790 ล้านบาท) เข้าไปยังแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนก่อนทยอยแปลงเป็น *USDT* เพื่อทำกำไร และต่อมาได้โอนเพิ่มอีก 2,850 BTC (มูลค่าประมาณ 3.3 ร้อยล้านดอลลาร์ หรือ 10,350 ล้านบาท) ส่งผลให้ยอดการขายรวมแตะระดับ 1.5 พันล้านดอลลาร์
*การเทขายครั้งใหญ่ของแกแล็กซี ดิจิทัลส่งแรงสะเทือนต่อทั้งตลาด* และผู้ถือครองที่ใช้เลเวอเรจสูงได้รับผลกระทบหนักที่สุด ข้อมูลจาก CoinGlass เผยว่ามีการบังคับปิดสถานะทั่วโลกในช่วงเวลาดังกล่าวรวมมูลค่ากว่า 515 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17,135 ล้านบาท) โดยเป็นสถานะที่เกี่ยวข้องกับ *บิตคอยน์* มากถึง 143 ล้านดอลลาร์ (ราว 4,755 ล้านบาท) นักลงทุนที่ถูกบังคับขายมีมากกว่า 140,000 ราย โดยเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นที่ OKX ซึ่งมีคำสั่ง Liquidation มูลค่าถึง 17 ล้านดอลลาร์ (ราว 561 ล้านบาท)
*ความคิดเห็น:* นักวิเคราะห์ตลาดเห็นตรงกันว่า แม้เหตุการณ์นี้จะกดดันราคาชั่วคราว แต่เป็นเพียงการปรับพอร์ตของรายใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาโครงสร้างของตลาด จึงไม่ควรตื่นตระหนกเกินไป อย่างไรก็ตาม การที่อัตราส่วนการถือครอง *บิตคอยน์* เทียบกับเหรียญอื่น (Alts) ร่วงลงต่ำกว่า 60% อีกครั้ง ก็สะท้อนการเปลี่ยนแปลงในจิตวิทยาการลงทุนบางส่วน
ประเด็นสำคัญที่ควรจับตาต่อไปคือ แนวทางจัดการสินทรัพย์ที่เหลือของแกแล็กซี ดิจิทัล และการขายเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางราคาของ *บิตคอยน์* ในระยะสั้น ท่ามกลางความผันผวนสูงในตลาด *คำแนะนำของนักวิเคราะห์คือการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบและลดความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจ* เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบซ้ำจากสถานการณ์ในอนาคต
ความคิดเห็น 0