บิตคอยน์(BTC) ยังคงเดินหน้าทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ต่างจากรอบที่ผ่านๆ มา เพราะ ‘ผู้เล่นหลัก’ ที่ขับเคลื่อนราคาขึ้นไม่ใช่นักลงทุนรายย่อย หากแต่เป็น *สถาบันขนาดใหญ่และนักลงทุนรายใหญ่* ตามข้อมูลล่าสุดจากคริปโตควอนต์(CryptoQuant)
คริปโตควอนต์เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2023 ปริมาณบิตคอยน์ที่นักลงทุนรายย่อยถือครองลดลงอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้พบแนวโน้มการขายจากกลุ่มนี้แรงขึ้น ในขณะที่รอบก่อนๆ ราคาที่พุ่งสูงมักเกิดจากกระแส ‘กลัวพลาด’ หรือ FOMO ของนักลงทุนทั่วไป รอบนี้กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ในทางกลับกัน กลุ่มผู้ถือครองกระเป๋าเงินรายใหญ่, สถาบันการเงิน และ ETF ต่างๆ กลับเริ่มทยอยเข้าซื้อต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2024 และยังคงเดินหน้าซื้อสะสมอย่างไม่หยุดยั้ง คริปโตควอนต์ระบุว่า เงินทุนจากกลุ่มเหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญของรอบขาขึ้นครั้งนี้ และอาจตีความได้ว่าเป็นสัญญาณ ‘ขาขึ้นระยะยาว’
บิตคอยน์ทำราคาสูงสุดที่ 123,000 ดอลลาร์ (ราว 1.71 ล้านบาท) ก่อนจะปรับฐานเล็กน้อยและเคลื่อนไหวต่ำกว่า 120,000 ดอลลาร์ (ราว 1.67 ล้านบาท) แม้ในช่วงปรับฐาน นักลงทุนรายย่อยยังคงขายออก แต่รายใหญ่กลับยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง
ดัชนีจากภายนอกตลาดก็สะท้อนแนวโน้มเดียวกัน ข้อมูลจาก Google Trends ชี้ให้เห็นว่าปริมาณการค้นหาเกี่ยวกับ ‘บิตคอยน์’ ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ไม่ใช่จุดต่ำสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ในโลกโซเชียลก็ไม่ปรากฏปรากฏการณ์ฟีเวอร์แบบที่เคยเห็นเมื่อปี 2021
คริปโตควอนต์ให้ความเห็นว่า "ครั้งนี้แตกต่างจากความคลั่งไคล้ในปี 2021 อย่างสิ้นเชิง *เงินฉลาดกำลังขยับตัวอย่างเงียบๆ* ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังคงรอดูท่าที" ความเคลื่อนไหวเช่นนี้มักสะท้อนถึงช่องว่างของข้อมูลระหว่างผู้เล่น และชี้ว่ากลุ่มสถาบันมี ‘ข้อมูลล่วงหน้า’ ที่ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้ก่อนนักลงทุนทั่วไป
สำหรับภาพรวมระยะกลาง นี่อาจเป็น ‘พลังขับเคลื่อนเชิงบวก’ ที่ยังมีแรงเหลือในการดันราคาขึ้นต่อ ทว่านักวิเคราะห์บางส่วนก็มองว่า หากเริ่มเห็นนักลงทุนรายย่อยหลั่งไหลกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ก็อาจเป็น ‘*สัญญาณเตือน*’ ว่ารอบนี้ใกล้จบแล้วก็เป็นได้ ความคิดเห็นนี้ชี้ว่า หากเกิด FOMO ขึ้นอีกครั้ง นั่นอาจเป็นจุดสูงสุดของรอบนี้ที่ควรระวัง
ความคิดเห็น 0