บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนอย่าง JD.com เปิดเกมรุกสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ก่อนที่ฮ่องกงจะเริ่มบังคับใช้กฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับ *สเตเบิลคอยน์* ในวันที่ 1 สิงหาคม โดยฝั่ง JD CoinChain ซึ่งเป็นทีมบล็อกเชนภายใต้ JD.com ได้เตรียมเปิดตัว *สเตเบิลคอยน์* ของตนเองภายใต้ชื่อ ‘JCOIN’ และ ‘JOYCOIN’ พร้อมลงทะเบียนชื่อเรียบร้อยกับทางการฮ่องกงเป็นที่เรียบร้อย
ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น JD CoinChain วางแผนให้ทั้ง ‘JCOIN’ และ ‘JOYCOIN’ *ตรึงมูลค่าไว้กับดอลลาร์ฮ่องกงในอัตรา 1:1* และพัฒนาอยู่บน *บล็อกเชนสาธารณะ* เพื่อใช้ในการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์และการซื้อขายคริปโต โดยเป้าหมายหลักคือ *พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถใช้งานในชีวิตจริงได้* ทั้งในระดับองค์กรและบุคคลทั่วไป ซึ่งถือว่า JD.com ต้องการเพิ่มกรณีใช้งานในชีวิตประจำวัน และปรับปรุงประสิทธิภาพในการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล
ขณะเดียวกัน JD CoinChain ยังเข้าร่วมโปรแกรม ‘สเตเบิลคอยน์แซนด์บ็อกซ์’ ที่ดูแลโดยสำนักงานการเงินฮ่องกง (HKMA) อีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคม JD CoinChain ยังได้ร่วมมือกับ Skystar Bank ธนาคารเสมือนจริงที่ได้รับการสนับสนุนจากเสี่ยวมี่และ Hutoo เพื่อทดลอง *ระบบการชำระข้ามพรมแดนที่ใช้สเตเบิลคอยน์ที่มีการค้ำประกันด้วยเงินสด* ซึ่งต่อมาได้เริ่มทดสอบเหรียญต้นแบบที่ตรึงกับดอลลาร์ฮ่องกงและสกุลเงินหลักอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน
หลิว เฟิง ซีอีโอของ JD CoinChain เปิดเผยว่า แพลตฟอร์มกำลังเดินหน้า *ขยายกรณีการใช้งานที่เน้นการใช้งานจริงในตลาด* โดยกรณีการใช้งานเบื้องต้น ได้แก่ *การชำระเงินข้ามประเทศ, การลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และการใช้จ่ายในภาคค้าปลีก* อย่างไรก็ตาม JD CoinChain ยืนยันว่า ทั้ง JCOIN และ JOYCOIN *ยังไม่ถูกออกอย่างเป็นทางการ* และเตือนให้ระวังการหลอกลวงโดยแอบอ้างชื่อของทั้งสองเหรียญ
สำหรับกฎระเบียบใหม่ของฮ่องกงที่จะมีผลในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนั้น รวมถึงข้อกำหนดด้าน *การขอใบอนุญาต, มาตรการป้องกันการฟอกเงิน (AML) และมาตรการต่อต้านการสนับสนุนการก่อการร้าย (CTF)* โดยผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตจะถูกระบุรายชื่อบน *ทะเบียนสาธารณะ* แต่ในขณะนี้ยังไม่มีบริษัทใดผ่านการรับรอง และ HKMA ก็ออกเตือนให้ระวังการปล่อยข้อมูลเท็จหรือการแอบอ้างใบอนุญาต
การเดินเกมก่อนกำหนดของ JD CoinChain ครั้งนี้ จึงถูกมองว่า *เป็นยุทธศาสตร์ที่สอดรับกับเป้าหมายของภาคเอกชนและรัฐบาลฮ่องกง* ในการยกระดับสถานะของเมืองให้กลายเป็น *ฮับของสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชีย* โดยเฉพาะเมื่อ JD.com มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการกระจายสินค้าและบริการทางการเงินที่แข็งแกร่ง จึงมีศักยภาพที่จะ *ผลักดัน JCOIN และ JOYCOIN ให้เป็นเครื่องมือชำระเงินดิจิทัลระดับภูมิภาคได้ในอนาคต*
**ความคิดเห็น:** หาก JD.com สามารถนำ JCOIN และ JOYCOIN ไปใช้งานได้จริงก่อนผู้เล่นรายอื่นในตลาด นี่อาจเป็นหมากสำคัญที่พา JD ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาด *สเตเบิลคอยน์ในเอเชีย* โดยเฉพาะเมื่อภาครัฐฮ่องกงเองก็มีเจตนาชัดเจนในการสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลที่มีกฎเกณฑ์ควบคุม
ความคิดเห็น 0