ดูไบขึ้นแท่นศูนย์กลางอสังหาฯ ด้วยคริปโต หลังรัฐออกกฎหมายชัดเจน หนุนลงทุนต่างชาติพุ่ง

ดูไบกลายเป็นศูนย์กลางของ *การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยใช้สกุลเงินคริปโต* อีกครั้ง หลังจากที่สำนักงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล(VARΑ) และธนาคารกลางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(CBUAE) ได้จัดตั้งกรอบกฎหมายที่ชัดเจน ทำให้ผู้ซื้อสามารถใช้บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และเหรียญที่มีมูลค่าคงที่อย่าง *สเตเบิลคอยน์* ซื้อบ้านในดูไบได้โดยตรง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เช่น ดามัค(Damac) และเอมาร์(Emaar) ต่างก็เดินหน้ารับชำระเงินด้วยคริปโตมากขึ้น ส่งผลให้มีการลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาอย่างคึกคัก

สายการบินเอมิเรตส์ ผู้ให้บริการรายใหญ่ในตะวันออกกลางก็เริ่มรองรับการชำระเงินด้วยคริปโตผ่านพันธมิตรอย่างคริปโตดอทคอม ขณะเดียวกัน กรมที่ดินดูไบ(DLD) ได้ประกาศเปิดตัวบริการ *โทเคนไนซ์อสังหาริมทรัพย์* ซึ่งรองรับบิตคอยน์, อีเธอเรียม และสเตเบิลคอยน์ เป็นการสะท้อนว่า การใช้สินทรัพย์ดิจิทัลไม่ใช่แค่การทดลองอีกต่อไป แต่เริ่ม *ถูกนำมาใช้จริงในชีวิตประจำวัน* ล่าสุดข้อมูลจากภาครัฐระบุว่า ณ ช่วงต้นปี 2025 มีธุรกรรมซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในดูไบราว 3% ที่ชำระด้วยคริปโต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติ

สถานการณ์นี้ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจว่า หากต้องการซื้อบ้านในดูไบด้วยคริปโตจะต้องทำอย่างไร ปัจจุบันตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา VARA ได้เข้ามาดูแลและควบคุมการดำเนินงานของ *แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ดูแลสินทรัพย์ และนายหน้า* ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีทั้งไบแนนซ์(Binance) และบริษัทย่อยภายใต้โนมูระอย่างเรเซอร์ ดิจิทัล(Laser Digital) ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการในประเทศ ซึ่งช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนคริปโตเป็น *ดีแร่ห์ (AED)* ได้อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย

นอกจากนี้ CBUAE ยังได้ดำเนินการควบคุมในระดับประเทศผ่านนโยบาย *กำกับดูแลบริการโทเคนการชำระเงิน* โดยหากมีการใช้ดีแร่ห์หรือสเตเบิลคอยน์ที่อิงจากสกุลเงินต่างประเทศในการทำธุรกรรม จำเป็นต้องทำผ่านสถาบันที่ได้รับอนุญาตจาก CBUAE เท่านั้น อีกทั้งตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2025 เป็นต้นไป การทำธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้อง *ผ่านการตรวจสอบ KYC และที่มาของเงินอย่างละเอียด* เพื่อป้องกันการฟอกเงิน

แม้ว่าจะสามารถชำระด้วยคริปโตได้จริง แต่ขั้นตอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ยังคงต้องดำเนินการเป็นสกุลเงินดีแร่ห์ กล่าวคือ คริปโตจะถูกใช้เป็นช่องทางกลางเพื่อชำระเงิน ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนในระบบราชการยังต้องใช้ *เงินสกุลท้องถิ่นตามกฎหมาย* ดังนั้นผู้ซื้อจะต้องแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านช่องทางที่ VARA หรือ CBUAE อนุญาตไว้จึงจะสามารถจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ได้จริง

ด้วยโครงสร้างกฎหมายของ VARA, การควบคุมสเตเบิลคอยน์ของธนาคารกลาง รวมถึงระบบการจดทะเบียนชัดเจนของ DLD ทำให้ดูไบกลายเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ผสาน *ความมั่นคงทางกฎหมายเข้ากับนวัตกรรมเทคโนโลยี* ได้อย่างลงตัว มีแนวโน้มว่า *โทเคนไนซ์อสังหาริมทรัพย์* และ *การใช้งานสเตเบิลคอยน์* จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตครั้งใหม่ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในดูไบในอนาคตอันใกล้ ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโต.