ตลาดคริปโต โดยเฉพาะในกลุ่มอัลท์คอยน์ กำลังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางจีนอาจออกมาตรการ 'อัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม' เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งประเด็นนี้กำลังจุดกระแสความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะในท่ามกลางภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกำลังพุ่งสูงขึ้น กระแสเงินทุนจึงมีแนวโน้มไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และหากแรงสนับสนุนจากเศรษฐกิจมหภาคยังต่อเนื่อง สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์(BTC), อาดา(ADA), อะวาแลนเช(AVAX) และเชนลิงค์(LINK) อาจได้รับอานิสงส์โดยตรง
มาตรการลดดอกเบี้ยและการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลาง ถือเป็นเครื่องมือหลักในการเพิ่มปริมาณเงินในระบบ ซึ่งในอดีตพิสูจน์แล้วว่าสร้างแรงขับเคลื่อนต่อความต้องการลงทุนในทรัพย์สินเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือคริปโต ดังนั้นเมื่อรัฐบาลจีนแสดงท่าทีพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม กระแสการคาดการณ์ในหมู่เทรดเดอร์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง หลายคนต่างสงสัยว่า ‘นี่อาจเป็นตัวจุดชนวนรอบใหม่ของตลาดหรือไม่?’
รายงานวิเคราะห์ของ 21Shares ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคม 2025 เสริมข้อมูลสนับสนุนแนวโน้มนี้ โดยข้อมูลระบุว่าราคาของบิตคอยน์มีความสัมพันธ์สูงถึง *94% กับระดับของสภาพคล่องทั่วโลก* ซึ่งสูงกว่าความสัมพันธ์ของดัชนี S&P500 หรือทองคำกับเงินทุนโดยรวมเสียอีก ความหมายคือเมื่อปริมาณสภาพคล่องเพิ่มขึ้น โอกาสที่ราคาของบิตคอยน์และตลาดคริปโตทั้งกลุ่มจะดีดตัวตามก็มีความเป็นไปได้สูง
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีก็กำลังขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมักถูกตีความว่าเป็นสัญญาณว่าความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุนกำลังลดลง นำไปสู่การเคลื่อนเงินทุนออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยไปยังสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตมากขึ้น เช่น อัลท์คอยน์
ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า หากบิตคอยน์สามารถปรับตัวขึ้นตามทิศทางของสภาพคล่องได้จริง อัลท์คอยน์ที่ยังถูกประเมินราคาไว้น้อยก็มีโอกาสขยับขึ้นตาม และหากการขยายสภาพคล่องของจีนมีผลต่อโครงสร้างระบบเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่ใช่เพียงชั่วคราว การที่อัลท์คอยน์จะกลับไปทดสอบระดับสูงสุดเดิมก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวนัก
ความคิดเห็น 0