Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) แซงหน้าบิตคอยน์(BTC) ดึงดูดเงินทุน 2.87 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์เดียว

อีเธอเรียม(ETH) แซงหน้าบิตคอยน์(BTC) ดึงดูดเงินทุน 2.87 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์เดียว / Tokenpost

ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ *อีเธอเรียม(ETH)* ที่แซงหน้า *บิตคอยน์(BTC)* และกลายเป็นศูนย์กลางของกระแสเงินทุนไหลเข้าสูงสุด โดยเมื่อวันที่ 24 ตามรายงานจาก CoinShares ระบุว่า ผลิตภัณฑ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีเงินไหลเข้าสูงถึง 3.75 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.21 แสนล้านบาท) ภายในสัปดาห์เดียว และในจำนวนนี้กว่า 77% หรือ 2.87 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.98 แสนล้านบาท) ถูกเทเข้าสู่ *อีเธอเรียม* โดยตรง

การไหลเข้าของเม็ดเงินจำนวนมากนี้ทำให้ *อีเธอเรียม* มีมูลค่าการลงทุนสะสมในปีนี้แตะระดับ 11 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.52 ล้านล้านบาท) แซงหน้า *บิตคอยน์* ได้อย่างขาดลอย โดยเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนเงินไหลเข้าต่อสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) แล้ว *อีเธอเรียม* อยู่ที่ 29% ขณะที่ *บิตคอยน์* อยู่เพียง 11.6% เท่านั้น ทั้งนี้ ในสัปดาห์เดียวกัน *บิตคอยน์* มีเงินไหลเข้าเพียง 552 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.66 หมื่นล้านบาท)

เม็ดเงินยังได้กระจายเข้าสู่ ‘อัลต์คอยน์’ อย่างชัดเจน *โซลานา(SOL)* ได้รับเงินลงทุน 176.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.45 หมื่นล้านบาท), *ริปเปิล(XRP)* 125.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.76 หมื่นล้านบาท), *ซุย(SUI)* 11.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.57 พันล้านบาท), *เชนลิงก์(LINK)* 1.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 170 ล้านบาท) และ *เอดา(ADA)* 800,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 110 ล้านบาท) ในขณะที่ *ไลต์คอยน์(LTC)* และ *ทอนคอยน์(TON)* กลับสูญเงินลงทุนไปถึง 400,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 60 ล้านบาท) และ 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 140 ล้านบาท) ตามลำดับ

ด้านข้อมูลภูมิภาคพบว่า เงินทุนส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ในสหรัฐ โดยรวมสูงถึง 3.73 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.19 แสนล้านบาท) รองลงมาคือ แคนาดา 33.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.7 พันล้านบาท), ฮ่องกง 20.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.9 พันล้านบาท), ออสเตรเลีย 12.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.68 พันล้านบาท) และสวิตเซอร์แลนด์ 4.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 580 ล้านบาท) ส่วนประเทศอย่างสวีเดนและบราซิลกลับมีเงินทุนไหลออกถึง 49.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.94 พันล้านบาท) และ 10.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.48 พันล้านบาท) ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม แรงซื้อดังกล่าวเริ่มชะลอตัว เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ตลาดคริปโตเผชิญแรงเทขายอย่างหนัก *บิตคอยน์* ร่วงจากระดับ 11.8 หมื่นดอลลาร์ (ประมาณ 1.64 ล้านบาท) มาอยู่ที่ 11.5 หมื่นดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ส่วน *อีเธอเรียม* ร่วงจาก 4,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 625,000 บาท) สู่ระดับ 4,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 597,000 บาท) ส่งผลให้มีการล้างพอร์ตในฝั่ง ‘ลอง’ เป็นมูลค่ารวมถึง 400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.56 หมื่นล้านบาท)

ปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการปรับฐานในตลาด ได้แก่ การลดความเสี่ยงก่อนการประชุม *แจ็กสันโฮล* ซึ่งนักลงทุนบางกลุ่มเร่งตัดสินใจปิดสถานะเพื่อระดมสภาพคล่อง โดยมี ‘ความคิดเห็น’ ว่าการเพิ่มความนิยมของพุทธออปชั่นในตลาดอนุพันธ์ อาจสะท้อนความไม่มั่นใจในทิศทางระยะสั้น

แม้จะมีความผันผวนสูง แต่ยังมีบางองค์กรที่เร่งเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง เช่น บริษัท MetaPlanet ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ได้ซื้อเพิ่ม 775 *บิตคอยน์* คิดเป็นมูลค่าราว 1.07 หมื่นล้านบาทเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อต่อยอดกลยุทธ์ถือครอง *บิตคอยน์* ในระยะยาว

กรณีการไหลเข้าของเงินทุนครั้งนี้ถือเป็น ‘สัญญาณสำคัญ’ ที่สะท้อนว่า *อีเธอเรียม* กำลังกลายเป็นสินทรัพย์หลักในสายตาของนักลงทุนสถาบัน และอาจส่งผลต่อทิศทางกลยุทธ์ของตลาดคริปโตในระยะข้างหน้า

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1