อีเธอเรียม(ETH) ปิดสัปดาห์ที่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยสัปดาห์ล่าสุดราคาทะยานแตะ 4,475 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.22 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นราคาปิดรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 สาเหตุหลักมาจากกระแสเงินทุนไหลเข้าของ ETF และกิจกรรมภายในเครือข่ายที่พุ่งสูงขึ้น สะท้อนว่าสภาวะตลาดขาขึ้นของ ETH ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
นักวิเคราะห์ในตลาดชี้ว่า อีเธอเรียมกำลังก่อตัวเป็น ‘ช่วงแนวรับที่แข็งแกร่ง’ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงราคาระหว่าง 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.56 ล้านบาท) ถึง 4,150 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.77 ล้านบาท) ซึ่งหากระดับนี้ยังคงรักษาไว้ได้ ก็อาจเอื้อต่อการปรับขึ้นของราคาในอนาคต ความคาดหวังในเรื่องการอนุมัติ ETF อีเธอเรียมแบบสปอตที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความต้องการใช้งานที่ขยายตัว ล้วนเป็นปัจจัยผลักดันราคาในช่วงนี้
นอกจากนี้ พฤติกรรมบนเครือข่ายของอีเธอเรียมเองก็ช่วยหนุนราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการใช้งานแอปพลิเคชันแบบไร้ตัวกลาง (DApp) ที่เพิ่มขึ้น, ค่าธรรมเนียมที่ปรับตัวสูง และการเติบโตของระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ต่างเป็นตัวกระตุ้นให้ความต้องการ ETH เพิ่มขึ้นอย่าง ‘ต่อเนื่อง’ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของอัตราการวางเดิมพัน (Staking) ซึ่งส่งผลให้ปริมาณขายในตลาดถูกจำกัด จนกลายเป็นโครงสร้างที่เอื้อต่อสภาพตลาดกระทิงมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ปัจจัยเชิงมหภาค เช่น ท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงแนวทางเชิงนโยบายในอนาคต อาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อทิศทางของตลาดคริปโต ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังคงดำเนินอยู่ ทำให้ตลาดเริ่มคาดหวัง ‘ความเป็นไปได้ของการรองรับในเชิงกฎหมาย’ มากขึ้นในระยะยาว
โดยสรุป ขณะนี้อีเธอเรียมกำลังเสริมสร้างฐานทั้งในเชิงเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานอย่างมั่นคง หากตัวแปรภายนอกยังคงมีเสถียรภาพ ราคาของ ETH มีแนวโน้มสูงที่จะเดินหน้าต่อในทิศทางขาขึ้นในช่วงต่อไป
ความคิดเห็น 0