ตลาดอีเธอเรียม(ETH) กำลังแสดง ‘สัญญาณกลับทิศทาง’ หลังจากที่นักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ เลือกปิดสถานะเลเวอเรจและทยอยโอนสินทรัพย์ออกจากแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความเสี่ยงในช่วงสั้นเริ่มถูกหลีกเลี่ยงมากขึ้น อ้างอิงจากข้อมูลออนเชนล่าสุด มีที่อยู่ของ ‘วาฬ’ รายหนึ่งที่ได้ปิดสถานะ Long มูลค่าประมาณ 21,683 ETH และถอนทุนกลับจำนวน 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,292 ล้านบาท
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าไม่ใช่การยอมขาดทุนทั่วไป แต่เป็น ‘กลยุทธ์ลดความเสี่ยง’ อย่างจริงจัง โดยนักลงทุนรายนี้ยอมรับขาดทุนกว่า 6.6 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 91 ล้านบาท หลังจากนั้นไม่นาน เขายังถอนเงินทุนจำนวน 9.6 ล้าน USDC (ประมาณ 133 ล้านบาท) ออกจากแพลตฟอร์มไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับการเทรดเลเวอเรจของอีเธอเรียม การถอนเงินครั้งใหญ่นี้อาจสร้างแรงกดดันทั้งด้าน *สภาพคล่องของตลาด* และ ‘จิตวิทยาการลงทุน’
แม้อีเธอเรียมจะกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงฟื้นตัวแถว ๆ 4,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 625,000 บาท) แต่นักลงทุนรายใหญ่อื่น ๆ เริ่มขายสินทรัพย์ออกมา ส่งผลให้เกิด ‘ความระแวง’ มากขึ้นในตลาด หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่านี่อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังเข้าใกล้จุดสูงสุด นักลงทุนกลุ่มนี้มักจะลดการถือครองเลเวอเรจเมื่ออัตราค่าธรรมเนียมฟันดิ้งเริ่มสูง เช่นเดียวกับในวัฏจักรการขึ้นราคาที่ผ่านมา
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่ากรณีนี้อาจไม่ใช่เพียงรายเดียว หากนักลงทุนรายใหญ่อื่นเริ่มทำตาม อาจส่งผลให้จำนวนสัญญาคงค้างในตลาดอนุพันธ์ลดลง และส่งผลให้แนวโน้มที่ขับเคลื่อนด้วยเลเวอเรจ *ชะลอลงอย่างรวดเร็ว* แนวโน้มการถอนตัวของวาฬอีเธอเรียมจึงเป็นมากกว่าการเคลื่อนย้ายทุน แต่เป็น ‘สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในทัศนคติของตลาด’ และการมองเห็นความเสี่ยงในมุมใหม่
แม้ตอนนี้ระดับแนวรับของอีเธอเรียมยังคงมีผล แต่ถ้าแรงขายจากนักลงทุนรายใหญ่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจทำให้เกิดความผันผวนด้านราคาขึ้นอีกครั้งในอนาคต
ความคิดเห็น 0