แม้ว่าราคาบิตคอยน์(BTC)จะมีแนวโน้มปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ผู้ถือครองรายใหญ่หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘วาฬคริปโต’ กลับแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาว ด้วยการทยอยซื้อเพิ่มกว่า 20,000 BTC ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขามองว่าราคาปัจจุบันเป็น ‘จุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ’
ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน ซานติเมนต์(Santiment) เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม กระเป๋าที่ถือครองระหว่าง 10 ถึง 10,000 BTC ได้สะสมซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 20,061 BTC แม้ราคาจะลดลงมาจากระดับสูงสุดระยะสั้นที่ราว 124,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.72 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ราว 6.22% ซานติเมนต์ระบุว่าการสะสมต่อเนื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘แนวโน้มระยะยาวที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม’ โดยวาฬได้เข้าซื้อรวมทั้งหมดกว่า 225,320 BTC ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว
นักวิเคราะห์ตลาด อักเซล แอดเลอร์ จูเนียร์(Axel Adler Jr.) แสดงความเห็นในเชิงบวกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม โดยชี้ให้เห็นถึงข้อมูลเฉลี่ยของ BTC ที่ไหลเข้ากระดานเทรดในช่วง 30 วันที่ผ่านมาว่าลดลงจาก -1,700 BTC เหลือ -3,400 BTC ซึ่งเป็นสัญญาณว่า *นักลงทุนจำนวนมากกำลังนำเหรียญออกจากกระดานซื้อขาย* เพื่อถือครองไว้ในระยะยาว และโดยทั่วไปถือเป็น ‘สัญญาณขาขึ้น’
บิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 114,971 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.57 ล้านบาท) ปรับตัวลง 0.3% ในช่วง 24 ชั่วโมง และลดลง 3.3% เมื่อเทียบรายสัปดาห์ แม้เคยแตะระดับต่ำสุดที่ 114,740 ดอลลาร์ แต่สามารถ ‘ป้องกันจุดรับทางจิตวิทยา’ ที่ระดับ 115,000 ดอลลาร์ไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราคาปัจจุบันยังต่ำกว่าจุดสูงสุดของปีราว 7.3% แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนยังคงเพิ่มขึ้นมากถึง 96%
ทางด้านภาพรวมตลาดคริปโตได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะหลังการประชุมระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนซบเซา และมูลค่าตลาดรวมสูญเสียไปราว 1 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 139 ล้านล้านวอน) *อย่างไรก็ตาม บิตคอยน์ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 58%* ตอกย้ำถึง ‘ความต้องการที่แข็งแกร่งกว่าอัลต์คอยน์’
ประเด็นที่เทรดเดอร์ควรจับตาคือ การเข้าซื้อของวาฬและปริมาณ BTC ที่ไหลออกจากกระดานซื้อขายจะสามารถ *กลืนซับแรงขายจากนักลงทุนระยะสั้นได้มากน้อยเพียงใด* หากแรงซื้อยังคงมีอย่างต่อเนื่องและสามารถต้านแรงขายได้สำเร็จ *โอกาสที่บิตคอยน์จะกลับเข้าสู่ภาวะขาขึ้นในรอบใหม่ก็มีความเป็นไปได้สูง*
ความคิดเห็น 0