บริษัทบล็อกเชน ‘ริปเปิล’(Ripple) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโก ได้ดำเนินการโอนเหรียญริปเปิล(XRP) ครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 18 ที่ผ่านมา โดยได้ส่ง XRP จำนวน 200 ล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 660 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8,423 ล้านบาท (ตามอัตราในขณะนั้น) ไปยังวอลเล็ตนิรนาม ทำให้เกิดการจับตาอย่างมากจากผู้ใช้งานคริปโตในวงกว้าง โดยมีความเห็นแตกต่างกันว่าการโอนนี้อาจเกี่ยวข้องกับการเตรียมพร้อมทำสัญญากับสถาบัน หรือเพียงเป็นการโอนภายในเพื่อจัดสรรสินทรัพย์ใหม่เท่านั้น
ท่ามกลางตลาดคริปโตที่อยู่ในช่วงขาลง การเคลื่อนไหญ่ในลักษณะนี้จึงได้รับความสนใจเป็นพิเศษ จนเกิดความสงสัยว่าริปเปิลอาจกำลังเตรียมขาย XRP ก่อนที่จะเกิดการร่วงของราคา ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนกลับมองในแง่บวกว่าธุรกรรมนี้อาจเป็นการ *วางกลยุทธ์เพื่อรองรับการเติบโตของ XRP ในอนาคต* และมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่ *การฟื้นตัวของราคา* อีกครั้ง
ด้านเหรียญดังอย่างชิบะอินุ(SHIB) ซึ่งมีสถานะเป็นมีมคอยน์ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด ก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันราคาโดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ระดับ 0.0000126 ดอลลาร์ โดยมีระดับแนวรับสำคัญอยู่ที่ 0.0000120 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาหลุดจากระดับนี้ ความหวาดกลัวว่าเหรียญจะ *เพิ่มเลขศูนย์อีกหนึ่งตำแหน่ง* ก็ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ SHIB เคลื่อนไหวในกรอบแคบมาตลอดช่วงฤดูร้อน และยังเผชิญภาวะขาลงสะสมตั้งแต่ต้นปี โดยมีการปรับลดลง 10~26% ต่อเดือน ทำให้บรรยากาศการลงทุนตึงเครียดมากขึ้น
จากสถานการณ์นี้ นักวิเคราะห์มองว่าหาก SHIB ไม่สามารถรักษาระดับแนวรับที่สำคัญได้ ก็มีแนวโน้มทางเทคนิคที่จะเข้าสู่ *บริเวณจุดต่ำสุดใหม่* อย่างไรก็ตาม ในปลายปีที่ผ่านมา เหรียญเคยดีดตัวขึ้น 49% ในระยะเวลาอันสั้น จึงมีโอกาสที่นักลงทุนจะกลับมาเก็งกำไรใน SHIB อีกครั้งในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเป็น *ปัจจัยชี้ขาดสำคัญในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า*
ขณะเดียวกัน อีเธอเรียม(ETH) ก็ยังไม่มีวี่แววจะกลับเข้าสู่ภาวะเสถียร โดยคริส เวสตัน(Chris Weston) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทเทรดดิ้งในออสเตรเลียอย่าง Pepperstone เตือนว่าอย่าซื้อ ETH อย่างเร่งรีบในช่วงนี้ พร้อมระบุว่า ETH อาจปรับฐานกลับไปที่ระดับแนวรับสำคัญที่ 4,100 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดก่อนหน้า พร้อมแนะนำว่า *“ควรรอให้ตลาดมีสัญญาณฟื้นตัวก่อนตัดสินใจลงทุน”*
แม้ว่า ETH จะทำสถิติต่ำสุดในวัน (intraday) ที่ 4,233 ดอลลาร์ แต่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมจนถึงปัจจุบันก็ยังเพิ่มขึ้นประมาณ 15% อย่างไรก็ตาม จากสภาพตลาดที่เข้าสู่ช่วงปรับฐานและมีแรงขายในระยะสั้น นักวิเคราะห์แนะนำให้จับตา *จังหวะเข้าซื้อลงทุนอย่างรอบคอบ*
การเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ของ XRP รวมถึงแรงกดดันด้านราคารอบใหม่ของ SHIB และ ETH สะท้อนให้เห็นว่า *ความไม่แน่นอนและความกลัวของนักลงทุนยังคงปกคลุมตลาด* เป็นอย่างมาก โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สิ่งที่ต้องจับตาคือแนวรับของสินทรัพย์หลักจะสามารถยืนอยู่ได้หรือไม่ รวมถึงการขยับตัวของเม็ดเงินจากโปรเจกต์ใหญ่อื่นๆ ซึ่งจะกลายเป็น *ตัวแปรสำคัญของทิศทางตลาดคริปโต* ในระยะสั้นนี้
ความคิดเห็น 0