ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ริปเปิล(XRP) ยังคงเผชิญสถานการณ์ที่ ‘ล้าหลัง’ ตลาดในภาพรวม ขณะที่บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) เดินหน้าทำสถิติราคาใหม่อย่างต่อเนื่อง XRP กลับไม่สามารถแสดงแรงซื้อที่โดดเด่นออกมาได้ และมีแนวโน้ม ‘ปรับฐาน’ เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองบางส่วนในตลาดที่เชื่อว่า *ตราบใดที่ระดับแนวรับหลักยังสามารถรักษาได้ โอกาสในการดีดตัวกลับยังคงมีอยู่*
ตามการวิเคราะห์กราฟรายวันของ XRP คู่กับเตเธอร์(USDT) พบว่าความพยายามในการปรับขึ้นราคาถูกสกัดไว้ที่แนวต้านบริเวณ 3.40 ดอลลาร์(ประมาณ 4,726 บาท) การไม่สามารถทะลุระดับนี้ได้ ทำให้ราคายังคงเคลื่อนไหวในแนวราบ สร้างความ ‘ไม่มั่นใจ’ ให้กับนักลงทุนในตลาด อย่างไรก็ดี แนวรับที่ 2.80 ดอลลาร์(ประมาณ 3,892 บาท) ยังคง ‘มีนัยสำคัญ’ พร้อมด้วยเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันและ 200 วันที่ยังคงอยู่ในโซนนั้น ซึ่งช่วยประคองทิศทาง ‘แนวโน้มขาขึ้น’ เอาไว้ อย่างไรก็ตาม ดัชนี RSI ที่เคยอยู่ในภาวะซื้อหนักเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ใต้ 50 แล้ว ซึ่ง *เป็นสัญญาณเปลี่ยนเทรนด์ที่ตลาดไม่อาจมองข้าม* หากราคาหลุดแนวรับ 2.80 ดอลลาร์ ก็อาจทำให้ราคาดิ่งลงสู่ระดับ 2.10 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,919 บาท) ในระยะต่อไป
ในอีกด้านหนึ่ง กราฟ XRP/บิตคอยน์(BTC) แสดงให้เห็นสัญญาณที่ ‘เป็นบวก’ มากกว่า โดยหลังจากการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในเดือนกรกฎาคม XRP ได้ทะลุแนวโน้มขาลงที่ลากยาวมาหลายเดือน รวมถึงสามารถขยับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 และ 200 วันได้สำเร็จ ขณะนี้เส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองกำลังบรรจบกันที่ระดับ 2,400 ซาโตชิ ซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นแนวรับสำคัญ หากระดับนี้สามารถรักษาไว้ได้ โอกาสในการรีบาวด์อีกครั้งก็ยังไม่อาจตัดทิ้งได้
อย่างไรก็ดี เช่นเดียวกับกราฟ XRP/USDT สัญญาณ RSI ที่หล่นลงมาต่ำกว่า 50 *ยังบ่งชี้ถึงแนวโน้มระยะสั้นที่อ่อนตัว* ขณะที่โครงสร้างระยะยาวยังไม่เข้าสู่ ‘ภาวะกลับตัว’ อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากยังไม่ปรากฏรูปแบบ ‘Golden Cross’ ที่นักวิเคราะห์จำนวนมากใช้วัดการเข้าสู่เทรนด์บวกอย่างมั่นคง ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุเพิ่มเติมว่า หากแนวรับ 2,400 ซาโตชิพังทลายลง ราคามีแนวโน้มจะร่วงลงลึกถึงระดับ 2,000 ซาโตชิหรือต่ำกว่า โดยเตือนให้นักลงทุนติดตามทิศทางของ RSI และแนวรับนี้อย่างใกล้ชิด
โดยรวมแล้ว XRP กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญทางเทคนิค หากสามารถยืนเหนือแนวรับหลักในทั้งสองกราฟได้ ก็มีโอกาสที่จะเริ่มต้นการดีดตัวรอบใหม่ แต่หากไม่สามารถยืนได้ ก็มีความเสี่ยงจะเกิดการปรับฐานอย่างรุนแรงอีกระลอก นักลงทุนจึงจำเป็นต้องจับตา *เส้นค่าเฉลี่ย* และ *ดัชนี RSI* อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางต่อไปในช่วงที่ตลาดยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ความคิดเห็น 0